กราบเรียนท่านประธานสภาที่เคารพกระผม พลตำรวจตรี เอกรักษณ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ขออนุญาตตอบข้อสังเกตที่สมาชิกทุกท่านได้เรียนถามผ่านประธานมาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ปปง. มีหลายท่านสงสัยว่าอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นตั้งนานแล้วหน่วยงานของรัฐ ทำอะไรอยู่ ต้องขอเรียนว่าการแก้ไขพระราชบัญญัติ ใช้ระยะเวลานานมาก ในส่วนของ ปปง. เองได้ยกร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ ปปง. เมื่อ ๒ ปีที่แล้วกว่าจะทำ ๗๗ คือประชาพิจารณ์กว่า จะผ่าน ครม. กว่าจะผ่านกฤษฎีกาใช้เวลา ๒ ปีนะครับ ในระหว่างพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว ต้องขออนุญาตเอ่ยนามคือท่านปลัดกระทรวง DE และท่านรัฐมนตรีได้สอบถามทาง ปปง. ว่ามีแนวทางอย่างไรที่จะมีกฎหมายคุ้มครองพี่น้องประชาชนได้ไวกว่านี้ เขาก็ถามว่า พ.ร.บ. ปปง. แก้ไขเสร็จใช้เวลาอีกนานเท่าไรผมก็บอกว่า อย่างเร็วคือปี ๒๕๖๗ ตอนนั้นที่คุยกันคือปี ๒๕๖๕ ท่านปลัดก็ถามว่าแล้วมันมีหนทางใดที่จะเร็วกว่านี้ไหม บอกเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ คือถอดหลักการสำคัญ ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างอำนาจให้หน่วยงานของรัฐสามารถเข้าไป กำกับดูแล และบังคับใช้กฎหมายได้นะครับ ในส่วนของ พ.ร.บ. ปปง. เองได้ถอดหลักการ ในเรื่องบัญชีม้ากับกระบวนการส่วนหนึ่งมาอยู่ใน พ.ร.ก. แล้วก็มีการเอาหลักการของ กฎหมายหน่วยงานอื่นเอามารวมเพื่อให้มีกฎหมายสำคัญที่ใช้ได้ไปพลางก่อนเป็นกรณี เร่งด่วนแม้จะไวแต่จริง ๆ แล้วก็ใช้เวลาประมาณ ๕ เดือน เพื่อยกร่าง พ.ร.ก. นี่คือ เร่งที่สุดแล้วท่านรัฐมนตรีบอกว่าขอให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ใช้เวลา ๕ เดือน จนกระทั่ง ๑๗ มีนาคม พ.ร.ก. นี้ออกมา แต่ผมขออนุญาตเรียนว่าตามข้อสังเกตที่ท่านสมาชิกสอบถาม ว่ามันไม่สมบูรณ์ ผมถึงเรียนว่านี่คือหลักการสำคัญที่จำเป็นเร่งด่วนแต่รายละเอียดอยู่ใน ร่าง พ.ร.บ. แก้ไข พ.ร.บ. ปปง. ซึ่งขณะนี้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และรอเข้า ครม. ชุดใหม่ อีกไม่นานหลังจากนี้กระผมจะนำร่าง พ.ร.บ. ปปง. มานำเสนอ สมาชิกทุกท่านในห้องนี้ช่วยกันเขียนกฎหมายที่ดีและคุ้มครองพี่น้องประชาชน ให้ปลอดจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น Call Center หรือหลอกลวง Online ณ วันนั้นต้องกราบรบกวนทุกท่านช่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ยกร่าง ถ้ามันมีความจำเป็นจะต้องแปรญัตติใดเพื่อให้กฎหมายมันสมบูรณ์กระผมยินดี ปรับแก้ตามความเห็นของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่านที่เป็นกรรมาธิการ และเสียงส่วนใหญ่ในการพิจารณาในวาระที่ ๒ และ ๓ นะครับ
-๖๙/๑
มีอีกท่านหนึ่งถามว่าบัญชีม้าเป็นความผิดอยู่แล้วทำไมต้องยกมาไว้ ใน พ.ร.ก. ด้วย ต้องขออนุญาตเรียนท่านประธานและพี่น้องประชาชน ณ ที่นี้ว่าในกรณีของ บัญชีม้าตามกฎหมายเดิมจะเป็นความผิดต่อเมื่อบัญชีดังกล่าวใช้ในการกระทำความผิด และเป็นผู้ร่วมสนับสนุน แต่ถ้ามีการยินยอมให้คนอื่นนำบัญชีไปใช้ยังไม่พบความผิด ไม่สามารถดำเนินคดีกับเขาได้ ด้วยเหตุนี้จึงต้องกำหนดกฎหมายให้มีความผิดในตัวเอง และขออนุญาตเรียนประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนว่าพี่น้องประชาชนรายใดคิดว่า ถูกหลอกให้ไปเปิดบัญชี วันนี้พรุ่งนี้ธนาคารเปิดไปปิดให้หมดครับ แค่นั้นครับ ท่านเดินทางไป ธนาคารบัญชีใดที่ท่านเปิดแล้วไม่ได้ใช้ หรือท่านคิดว่าคนอื่นเอาไปใช้ และไม่มี ความจำเป็นต้องใช้ ท่านไปปิดบัญชีเลย คนที่ซื้อไปเขาก็ไม่สามารถเอาไปใช้ในการกระทำ ความผิดได้ และไม่เป็นความผิด ปิดบัญชีพรุ่งนี้ มะรืนนี้ เมื่อสะดวกไปปิดเสียคนร้าย ไม่สามารถนำไปใช้ก่ออาชญากรรมได้ท่านไม่ต้องรับผิดนะครับ
ส่วนอีกอันหนึ่งก็คืออย่างที่ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้นำเสนอ คือความเร็วครับ เนื่องจากกฎหมายของเรากว่าจะแก้ได้ใช้เวลาหลายปี แต่คนร้ายใช้เวลา นาทีเดียวในการเปลี่ยนวิธีการในการกระทำความผิดนะครับ อาชญากรรม Call Center ที่หลอกลวงเงินไปจากพี่น้องประชาชนความเร็วเฉลี่ย ๖-๗ นาทีเงินหมดแล้วครับ ขณะเดียวกัน ในกฎหมายเดิมกว่าจะไปแจ้งความ กว่าตำรวจจะแจ้งธนาคาร กว่าธนาคารจะเริ่มอายัด เร็วที่สุดคือ ๒ ชั่วโมง เพราะฉะนั้นเราไม่มีวันตามคนร้ายทัน ด้วยเหตุนี้ตัวเลขที่ทุกท่าน เอามานำเสนอว่าถูกหลอกเงินไปหลายพันล้านบาททำไมอายัดได้นิดเดียว เพราะความเร็ว ของเราตามคนร้ายไม่ทัน ด้วย พ.ร.ก. ฉบับนี้จะทำให้ ปปง. สมาคมธนาคาร และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องสามารถสร้างระบบเครือข่ายเพื่ออายัดเงินของคนร้ายได้ไวขึ้น หลังจากนี้ เราคงต้องคุยกันเป็นวินาทีนั่นคือความหวังของ ปปง. และสมาคมธนาคารว่า ใช้เวลาไม่กี่วินาทีสามารถหยุดเงินที่คนร้ายฉ้อโกงไปจากพี่น้องประชาชนได้ ผมเชื่อว่า การมี พ.ร.ก. ทำให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องสามารถสร้างระบบบังคับใช้กฎหมาย ที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพนะครับ ในอนาคตก็คงต้องมานั่งปรับกฎหมายเพิ่มเติม ตามข้อสังเกตเพื่อให้กฎหมายฉบับนี้มันสมบูรณ์มากขึ้น ก็ต้องยอมรับครับว่า พ.ร.ก. ยังมีช่องโหว่หรือมีจุดที่ต้องปรับแก้อีกหลายประการ ก็ต้องกราบเรียนท่านประธาน และสมาชิกทุกท่านว่าหลังจากนี้ก็ต้องขอให้ทุกท่านช่วยเราในการสร้างระบบกฎหมาย เพื่อให้มีอำนาจในการปกป้องคุ้มครองพี่น้องประชาชน ขอบคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎร กระผม พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. ขออนุญาตตอบ ๒ ประเด็นด้วยกัน
ประเด็น สว. คนดัง ในประเทศไทยมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ๒ ฉบับด้วยกัน ถ้าเป็นความผิดมูลฐานทั่วไปจะขึ้นกับกฎหมาย ปปง. แต่ถ้าเป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับ กฎหมายยาเสพติด เป็นอำนาจของ ป.ป.ส. ป.ป.ส. มีอำนาจยึดทรัพย์แล้วก็ฟ้องเอง แล้วเอาทรัพย์ไปขายทอดตลาดเองทั้งหมด แต่ต้องเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แล้วก็ผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์แล้วก็คดีสมคบ เมื่อก่อนเป็น พ.ร.บ. แยกกันตอนนี้มารวมกัน เป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด ก็ต้องขออนุญาตเรียนท่านรังสิมันต์ โรม ว่า ต้องถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและ เลขาธิการ ป.ป.ส. ว่าทรัพย์ของ สว. คนดังไปถึงไหนแล้วเพราะว่าในคดีนี้มีหลายรายด้วยกัน ผู้ต้องหามีหลายคน แล้วเท่าที่ผมทราบมานี่มีการยึดอายัดทรัพย์ทั้งทรัพย์สินและเงินสด หลายรายการด้วยกัน แต่ต้องกราบเรียนด้วยความเคารพว่าพอดีมันไม่ได้อยู่ในอำนาจของ ปปง. จนกว่า ป.ป.ส. ทำไม่ได้ แล้วส่งมาให้ ปปง. ดำเนินการ ปปง. ถึงจะมีสิทธิทำนะครับ
ในส่วนของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นความผิดมูลฐานซึ่งอยู่ในอำนาจ ของ ปปง. ขอยืนยันต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ว่าในส่วนของ ปปง. มุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะดำเนินการสุดความสามารถ และกฎหมาย ปปง. กำหนดว่าถ้าวันใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. กระทำผิดเสียเองโทษหนักกว่าชาวบ้าน ๓ เท่า เพราะฉะนั้นผมขออนุญาตยืนยันว่า บุคลากรใน ปปง. ซึ่งมีการคัดสรรมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน การดำเนินการมีกระบวนการ ตรวจสอบที่ค่อนข้างเข้มแข็ง โอกาสที่จะไปช่วยเหลือ ปกปิด หรือกระทำการที่มิชอบ เป็นไปได้ยากมาก และถ้ามีการตรวจพบเมื่อไรหนักกว่าชาวบ้าน ๓ เท่าครับ ขอบคุณครับ
ขออนุญาตอีกรอบหนึ่งครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ก็อย่างนี้ครับ เดี๋ยวประชุมลงมติเสร็จเดี๋ยวผมไปพบคุณรังสิมันต์ แล้วเดี๋ยวขอเบอร์ติดต่อ รับปากว่าจะตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดแล้วรายงานเนื่องจากว่าไม่ได้เตรียมข้อมูลมา เรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าเดี๋ยวจะตรวจสอบรายละเอียดเป็นอย่างไร จะแจ้งคุณรังสิมันต์ โรม ทราบเป็นการส่วนตัวเลย ถ้ามีเอกสารอันใดที่สามารถยื่นให้ได้และไม่เป็นความผิด ตามกฎหมายจะส่งเอกสารให้ด้วยครับ เดี๋ยวหลังประชุมเสร็จเดี๋ยวผมรอพบครับ
ขอโทษครับ เมื่อสักครู่พอดีเขาหันหน้ามาทางผมครับ ขอประทานโทษท่านประธานครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและท่านสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน เนื่องด้วย นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงินติดภารกิจเร่งด่วน จึงไม่สามารถเข้าชี้แจงผลการปฏิบัติงานของ สำนักงาน ปปง. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ในครั้งนี้ได้ และได้มอบหมายให้กระผม พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การฟอกเงิน พร้อมคณะผู้บริหาร เข้าชี้แจงและรับข้อสังเกตของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันนี้ ซึ่งการจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ เป็นไปตาม มาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ได้บัญญัติให้สำนักงาน ปปง. จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี เสนอต่อ คณะรัฐมนตรี และให้คณะรัฐมนตรีเสนอรายงานผลการปฏิบัติงานพร้อมข้อสังเกตต่อ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีอย่างน้อยให้มี สาระสำคัญ ดังนี้ ๑. รายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินและการดำเนินการอื่น ตามพระราชบัญญัตินี้ ๒. ปัญหาและอุปสรรคจากการปฏิบัติงาน ๓. รายงานข้อเท็จจริง หรือข้อสังเกตจากการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ พร้อมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะ สำนักงาน ปปง. ได้เสนอเล่มรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ให้ทราบแล้ว จึงขอรายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญของสำนักงาน ปปง. ในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ พอสังเขปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน แบ่งออกเป็น
๑.๑ การยึดหรืออายัดทรัพย์สิน สำนักงาน ปปง. ได้มีคำสั่งยึดหรืออายัด ทรัพย์สิน จำนวน ๒๑๐ คำสั่ง ๑๖๓ รายคดี มูลค่าทรัพย์สินประมาณ ๓,๖๕๘.๗๙ ล้านบาท และได้ดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย จำนวน ๔๕ เรื่อง มูลค่าทรัพย์สินประมาณ ๘๒๓.๑๐ ล้านบาท
๑.๒ การบริหารจัดการทรัพย์สินจากการยึดหรืออายัด ได้ดำเนินการ เก็บรักษาทรัพย์สินจากการยึดและอายัดไว้มูลค่าประมาณ ๓๘,๔๓๘.๕๔ ล้านบาท ขายทอดตลาดทรัพย์สิน จำนวน ๒๓ ครั้ง มูลค่าที่ขายได้ประมาณ ๑๖๗.๗๗ ล้านบาท มีรายได้จากการนำทรัพย์สินออกบริหารประมาณ ๒๑.๑๑ ล้านบาท นำทรัพย์สินส่งคืนเจ้าของ ประมาณ ๔,๘๘๐.๓๓ ล้านบาท นำทรัพย์สินที่ศาลสั่งตกให้เป็นของแผ่นดิน ส่งเป็นรายได้ แผ่นดินประมาณ ๒,๗๔๖.๕๗ ล้านบาท
๒. การดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุน ทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. ๒๕๕๙ ได้ดำเนินการประกาศรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดตามมาตรา ๖ การสนับสนุนทางการเงิน แก่การก่อการร้าย UN Sanction List จำนวน ๘ คำสั่ง ตามมาตรา ๗ การสนับสนุนทาง การเงินแก่การก่อการร้าย Thailand List จำนวน ๔๐ ราย และตามมาตรา ๑๕ จำนวน ๓ คำสั่ง การดำเนินคดีอาญาฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายกับผู้กระทำความผิด ตามมาตรา ๒๕ จำนวน ๔ ราย
๓. การประสานความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ประกอบด้วย
๓.๑ ภายในประเทศ สำนักงาน ปปง. ได้ให้ความสำคัญในการประสาน ความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และกลุ่มผู้มีหน้าที่รายงาน เช่น จัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียน ร้องทุกข์ แจ้งเบาะแส โดยกำหนดหมายเลขโทรศัพท์ สายด่วน ปปง. ๑๗๑๐ ประสานความร่วมมือกับประชาชน โดยมีโครงการสายลับ ปปง. ซึ่งปัจจุบันนี้สมาชิกจำนวน ๗๕,๔๔๙ ราย จัดสัมมนาให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อเผยแพร่ ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการฟอกเงิน จัดทำบันทึกความเข้าใจและบันทึกข้อตกลงรวมทั้งสิ้น จำนวน ๔๔ ฉบับ
๓.๒ ในส่วนของต่างประเทศ สำนักงาน ปปง. ได้ส่งเสริมและประสาน ความร่วมมือทั้งระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ มีการจัดทำ MOU ร่วมกับประเทศต่าง ๆ จำนวน ๕๕ ฉบับ รวมจำนวน ๕๒ ประเทศ พร้อมทั้งเข้าร่วมกลุ่มองค์กรระหว่างประเทศ เช่น กลุ่มความร่วมมือของหน่วยข่าวกรองทางการเงินสากล Egmont Group หรือกลุ่มต่อต้าน การฟอกเงิน Asia Pacific Group หรือ APG
๔. การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในด้านการตรวจ พิสูจน์หลักฐานทางคอมพิวเตอร์ และการตรวจสอบการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี โดยในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ สามารถตรวจสอบการกระทำความผิดได้จำนวนทั้งสิ้น ๑๔ เรื่อง
๕. ในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ มีการยกร่างและปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการฟอกเงิน อาทิเช่น ร่างพระราชพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงิน แก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง พ.ศ. .... ร่างกฎหมาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ และ กฎหมายที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับ อาทิเช่น ระเบียบคณะกรรมการ ธุรกรรมว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน ตามกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๕ ระเบียบสำนักงาน ปปง. ว่าด้วยการเปรียบเทียบและการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕
๖. ปัญหาและอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงาน
๖.๑ เพื่อให้การปรับปรุงและพัฒนากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ ระบบ AML/CFT เป็นไปตามข้อแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงควรมีการทบทวนและ ปรับปรุงพัฒนากฎหมาย แนวปฏิบัติและมาตรการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับ มาตรฐานสากลด้าน AML/CFT และเท่าทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
๖.๒ เพื่อให้ผู้บริหารสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ ในระดับนโยบาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการนำเข้าข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน และพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้สามารถบูรณาการข้อมูลและใช้ฐานข้อมูลเดียวกัน ในการดำเนินงานด้าน AML/CFT
๖.๓ เพื่อให้การดำเนินคดีหรือสืบสวนการกระทำความผิดตามความเสี่ยง ด้านการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธ ที่มีอนุภาคทำลายล้างสูงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรส่งเสริมให้มีการบูรณาการการทำงาน ร่วมกันระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและสำนักงาน ปปง. เพื่อให้เกิดการทำงานเชิงรุก
๖.๔ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือของภาคประชาชนเกี่ยวกับการให้ข้อมูล ข่าวสารในการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดมูลฐาน และการดำเนินการเกี่ยวกับ ทรัพย์สิน จำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ภาคประชาชน รวมทั้ง มีการปรับแก้ไขกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนสนใจสมัครเป็นสมาชิก โครงการสายลับ ปปง. มากยิ่งขึ้น
จึงกราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทุกท่าน เพื่อโปรดทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน ปปง. ประจำปี งบประมาณ ๒๕๖๕ หากมีข้อสังเกตหรือข้อเสนอแนะใดที่เป็นประโยชน์ต่อสำนักงาน ปปง. กระผมและผู้บริหารจะได้นำข้อสังเกตและข้อเสนอแนะดังกล่าวไปดำเนินการ เพื่อให้ การปฏิบัติงานของสำนักงาน ปปง. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามเจตนารมณ์ต่อไป ขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรครับ กระผม พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้แทนสำนักงาน ปปง. ขออนุญาตชี้แจงผ่านท่านประธานไปถึงสมาชิกที่อภิปรายหลายราย บางส่วนอาจจะ ตอบเจาะ บางส่วนอาจจะตอบในภาพรวม เนื่องจากว่ามีหลายท่านอภิปรายไปในแนวทาง ใกล้เคียงกัน ผมขออนุญาตตอบรายแรกก่อน ในเรื่องของบริษัท ทรัพย์สินทร์ 54 จำกัด ครับ บริษัท ทรัพย์สินทร์ 54 จำกัด เป็นคดีจำนำข้าวเมื่อปี ๒๕๕๙ ตอนนั้นยึดทรัพย์มาทั้งหมด ๙,๐๐๐ กว่าล้านบาท มีทรัพย์ทั้งสิ้น ๑,๓๖๒ รายการ ๙,๖๙๒ ล้านบาท บริษัท กรีฑา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นทรัพย์ส่วนหนึ่งที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ยึดมา มันเป็นคอนโดมิเนียม จำนวน ๗๐๐ ห้อง แต่ว่าอยู่ระหว่างก่อสร้าง ๔๐๐ กว่าห้อง เกือบ ๆ ๕๐๐ ห้อง เป็นคอนโดมิเนียมที่เสร็จแล้ว มีการวางเงินดาวน์แล้วรอการโอน หรือโอนไปบางส่วนแล้วแต่จำนวนน้อยมาก ๒๐๐ กว่าห้อง เมื่อยึดมาแล้ว ต้องเรียนก่อนว่าเหตุการณ์นี้เกิดมาเมื่อปลายปี ๒๕๕๙ ต่อปี ๒๕๖๐ ขณะนั้นยึดมาแล้ว ผู้มีส่วนได้เสียหรือเจ้าของไม่มาขอรับไปดูแล แต่พอมันเป็นอาคารชุด มันมีส่วนหนึ่งที่กฎหมายบัญญัติก็คือต้องชำระค่าส่วนกลาง ๗๐๐ ห้อง ต้องจ่ายค่าส่วนกลาง ทั้งหมด ๗๐๐ ห้อง เมื่อผู้มีส่วนได้เสียไม่มารับไปดูแล เพราะว่าการที่ให้ผู้มีส่วนได้เสียรับไป ดูแล ไม่สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ แล้วเขาก็ไม่มารับ พอไม่มารับในส่วนของ ปปง. เอง ก็จำเป็นต้องหาทางบริหารทรัพย์ดังกล่าว เพื่อให้มีเงินรายได้เอาไปจ่ายค่าส่วนกลางคือ นิติบุคคล ที่ท่านนนท์นำมาว่ามีผู้ยื่นมานี้ ต้องขออนุญาตเท้าความนิดหนึ่ง ก็คือหนังสือที่เขา ยื่นมานี้คือพฤษภาคม ปปง. เองมีประกาศเมื่อเดือนสิงหาคม เชิญชวนนิติบุคคลหรือบุคคลใด ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาเป็นผู้จัดการบริหารอาคารชุดทั้งหมด โดยกำหนดเงื่อนไขว่าเมื่อมัน นำไปบริหารแล้วจะต้องส่งรายได้ให้กับกองบริหารจัดการทรัพย์สิน เพื่อนำมาเป็นเงินกองกลาง เอามาใช้จ่ายเกี่ยวกับทรัพย์ แล้วอีกส่วนหนึ่งจะต้องเก็บไว้รอคำพิพากษาศาลถึงที่สุดว่า ตกเป็นของแผ่นดินก็ส่งแผ่นดิน แต่ถ้าเกิดให้คืนกับผู้เสียหายเราต้องเอาเงินนี้คืนผู้เสียหาย
ปัญหามีอยู่ว่าเราประกาศสาธารณะในช่องทาง Website ของ ปปง. เลย ต้องการใครมาเป็นผู้จัดการ เป็นเวลา ๑๕ วัน มี บริษัท ทรัพย์สินทร์ 54 จำกัด ได้รับทราบ ประกาศแล้ว ก็ยื่นเข้าเสนอตัวเพียงรายเดียว ต้องขออนุญาตว่าเหตุการณ์มันเกิดปี ๒๕๖๐ ผมมาอยู่ ปปง. สิงหาคม ปี ๒๕๖๕ เรื่องนี้ผมก็กลับมาดูเหมือนกัน หลังจากที่คณะกรรมาธิการ การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติดเรียกไปถาม เราทราบเรื่องแล้ว ผมก็กลับมา ดูอีกส่วนหนึ่ง ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่อยากได้ บริษัท ทรัพย์สินทร์ 54 จำกัด เหมือนกัน เพราะมันมีเพียงแค่รายเดียว แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างนั้นคือ คุณสมบัติเขา ครบตามที่ประกาศ คณะกรรมการเลยต้องลงนามในสัญญากับ บริษัท ทรัพย์สินทร์ 54 จำกัด ให้เขาเป็นผู้จัดการบริหารนิติบุคคล ก็คือห้องชุดในความรับผิดชอบของ ปปง. ประมาณ ๒๐๐ กว่าห้อง ในระหว่างสัญญาเป็นเวลา ๕ ปี บริษัท ทรัพย์สินทร์ 54 จำกัด ส่งเงินรายได้ ตามสัญญามาโดยตลอด รวมทั้งสิ้น ๓๑ ล้านบาท เงินจำนวนนี้ส่วนหนึ่งได้นำไปจ่ายนิติบุคคล เป็นค่าส่วนกลาง เพื่อให้นิติบุคคลเขาอยู่รอด เพราะว่า ๗๐๐ ห้อง มีห้องใช้ได้ ๒๐๐ ห้อง อีก ๕๐๐ ห้องเป็นซาก จนกระทั่งปี ๒๕๖๕ คดีถึงที่สุด ทำให้ ปปง. ไม่มีอำนาจบริหาร จัดการทรัพย์สินดังกล่าว และต้องส่งทรัพย์คืนให้เป็นของแผ่นดินโดยผ่านกรมธนารักษ์ เมื่อหยุดสัญญาการบริหารทรัพย์สิน ในเดือนสุดท้าย บริษัท ทรัพย์สินทร์ 54 จำกัด ไม่จ่ายงวดสุดท้าย เงินค้างอยู่ประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ กว่าบาท ตอนนี้ ปปง. กำลังฟ้อง บริษัท ทรัพย์สินทร์ 54 จำกัด อยู่ แต่ในระหว่างการดำเนินการที่ผ่านมาเราก็กลับมาตรวจ อีกรอบหนึ่งว่ามันโปร่งใสไหม มันมีขั้นตอนใดที่ผิดกฎหมายบกพร่องหรือมีแนวโน้มส่อไป ในทางทุจริตไหม ก็ต้องขออนุญาตเรียนท่านประธานว่าขณะนี้เราก็กำลังตรวจสอบ เอกสารสัญญา เนื่องจากว่าพอมันผ่านมานาน ผู้ที่ได้มีอำนาจอนุมัติหรือผู้ที่เกี่ยวข้องบางส่วน ก็เกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ขออนุญาตย้ำว่าถ้ามีการทุจริตหรือมีการได้ผลประโยชน์ ในทางอ้อมหรือในทางตรงก็แล้วแต่ เราไม่ปล่อยผ่านไป ก็ต้องเรียนท่านประธานไปถึงท่านนนท์ว่า ตรงนี้ผลการตรวจสอบคืบหน้าเป็นประการใด สำนักงาน ปปง. จะรายงานข้อมูลผลการดำเนินการตรวจสอบ ให้คณะกรรมาธิการ การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติดได้รับทราบ เนื่องจากว่าเรื่องนี้มันมาจาก คณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติดซึ่งเป็นต้นเรื่อง ผมยืนยัน ว่าเรื่องนี้เราไม่ได้เพิกเฉยและเราตรวจให้ ข้อมูลทั้งหมดพร้อมจะเปิดเผย พร้อมชี้แจง แต่จากการดูในเบื้องต้นเรายังไม่เห็นความผิดปกติ เรื่องทุจริตเลยยืนยันว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์เข้ามาในระบบบัญชีของ ปปง. แล้วก็มีการจ่ายโดยผ่านขั้นตอน อย่างเข้มงวด เหลืออีกอันหนึ่งก็คือว่ามันจะมี Conflict of Interest หรือไม่ ก็คือผู้เกี่ยวข้อง มีส่วนได้เสียหรือมีความเกี่ยวพันกันหรือเปล่า อันนี้เรากำลังตรวจสอบ
ในส่วนของ Townhouse ที่ภูเก็ต เนื่องจากเจ้าของผู้มีกรรมสิทธิ์หรือ ผู้มีส่วนได้เสียไม่ได้ยื่นคำร้องขอรับไปดูแล เพื่อไม่ให้ทรัพยากรเสื่อมโทรมเราจึงออกประกาศ ให้เช่าต่อสาธารณะเหมือนกัน แต่ก็ต้องเรียนก่อนว่า ปปง. มิใช่บริษัทที่ประกอบกิจการ ในเชิงพาณิชย์เพื่อต้องการผลกำไร เราเพียงต้องการรักษาสภาพทรัพยากรไว้มิให้เสื่อมสูญสลาย แล้วมีดอกผลที่พอสมควรต่อการดูแลรักษา แล้วเก็บไว้ให้ผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดินหรือเจ้าของทรัพย์ ในการประกาศดังกล่าวในอัตราค่าเช่ามันก็เลยอยู่ในเกณฑ์ที่ผู้เช่า เช่าไหว เจ้าหน้าที่รับได้ แต่ก็เช่นกันครับ เดี๋ยวเราจะไปตรวจอีกทีหนึ่งว่าอัตราค่าเช่า ๑๕,๐๐๐ บาทต่อเดือน มันเหมาะสมหรือไม่ มันผ่านเกณฑ์ของ ปปง. หรือไม่ แล้วก็มี ผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อนในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ในกรณีนี้ก็ขอรับเป็นข้อมูลแล้ว ปปง. จะไปดำเนินการตรวจสอบ แล้วก็นำในรายละเอียดของผลการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง เรียนท่านนนท์ผ่านคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด
ในส่วนของท่านอื่น ๆ ผมขออนุญาตนำเรียนอย่างนี้ครับ ที่ผ่านมา ปปง. อยู่ในหน่วยตั้งรับ เนื่องจากว่าความผิดฟอกเงินมันไม่เป็นความผิดในตัวเอง ต้องมีความผิด มูลฐานเกิดขึ้นก่อน ณ ปัจจุบันนี้ความผิดมูลฐานของการฟอกเงินในประเทศไทยมีทั้งหมด ๒๘ ฐานความผิด ต้องมีการดำเนินคดีในความผิดมูลฐานก่อน หน่วยงานที่มีการจับกุม บังคับใช้กฎหมายดำเนินคดีส่งเรื่องมาให้ ปปง. แล้ว ปปง. จึงจะเป็นหน่วยงานลำดับที่ ๒ เข้าไปตรวจสอบมาตรการในทางแพ่งก็คือเกี่ยวกับทรัพย์สิน แต่ก็ต้องขออนุญาตเรียนว่า ผู้บังคับบัญชาที่กำกับดูแล ปปง. คือท่านนายกรัฐมนตรี เมื่อปีที่แล้วหลังจากท่านนายกรัฐมนตรี และ ครม. เข้ารับตำแหน่งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายเลยว่าให้ ปปง. เริ่มดำเนินการ ในเชิงรุกบ้าง เพื่อลดอาชญากรรมทางด้านการฟอกเงิน และเพื่อให้ผู้กระทำผิดเกรงกลัว และเข็ดหลาบ ตอนนี้เราก็ดำเนินการในเชิงรุกมากขึ้น โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ต้องเรียนยืนยันว่าถ้ามันไม่มีการจับกุมความผิดมูลฐาน ปปง. ก็ได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ ก็ยังทำอะไรไม่ได้ หรือบางครั้งหน่วยงานที่จับกุมยังไม่ได้รายงานมา เราเพียงทำได้แค่ ประสานข้อมูล แล้วขอให้เขารายงานมาโดยไว เพื่อเราจะได้ไปดำเนินการมาตรการในทางแพ่ง ก่อนที่ทรัพย์สินมันจะถูกเคลื่อนย้ายหลบหนีไป ตรงนี้เรากำลังพยายามดำเนินการตามข้อสังเกต ของท่านเลยครับ เรากำลังปรับเปลี่ยน แต่อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง
ปัญหาของ ปปง. ก็คือข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ เนื่องจาก ปปง. มาตั้ง อยู่ที่กรุงเทพ แต่พื้นที่รับผิดชอบทั่วราชอาณาจักร งบประมาณในแต่ละปีเราได้ค่อนข้างน้อย ต้องขออนุญาตเรียนว่าเรามีข้าราชการอยู่ ๕๐๐ คน เป็นส่วนปฏิบัติการจริง ๆ ประมาณ ๒๐๐ บวกลบ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นส่วนสนับสนุน เพราะเนื่องจากว่างาน ปปง. มันมีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นงานฝึกอบรม งานกำกับตรวจสอบเราก็พยายามขอคนเพิ่ม แต่ยังไม่ได้รับ เราพยายามของบประมาณเพิ่ม แต่ยังไม่ได้รับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบปี ๒๕๖๗ ซึ่งใช้ไป พลางก่อน ทำให้ข้อจำกัดในการทำงานของ ปปง. ก็ค่อนข้างจำกัด เพราะมีเงินในการทำงาน ไม่มากนัก
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากนำเรียนท่านประธานสภาและสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร คือกฎหมายครับ กฎหมาย ปปง. ใช้มา ๒๐ กว่าปี ปรากฏว่าวันนี้ทุกคนรู้หมด Physical Asset บ้าน ที่ดิน เงินสด เงินในบัญชีธนาคาร ปัญหาของเราคือวันนี้คนร้าย นำทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดไปไว้ไหน Physical Asset ค่อนข้างน้อย มันไม่มียึดได้ แบบมหาศาลเป็นพัน ๆ ล้านเหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะว่าคนร้ายเริ่มมองแผนการดำเนินการ ของ ปปง. ออก แล้วก็หลบเลี่ยง ในขณะเดียวกันเราก็พยายามขอแก้กฎหมายให้เป็นปัจจุบัน เพื่อตามทันคนร้าย โดยเฉพาะยิ่งเทคโนโลยี Blockchain และ Cryptocurrency ตัวร่างกฎหมาย ดังกล่าวตอนนี้อยู่ระหว่างรอการนำเข้าสภาเพื่อพิจารณา กำลังขออนุญาตกราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกสภา เมื่อกฎหมาย ปปง. เข้ามาแล้ว ก็ต้องกราบ รบกวนทุกท่านให้ช่วยกันสนับสนุนปรับกฎหมายนี้ เพื่อให้เรามีเครื่องมือและอาวุธใหม่ ๆ ไปรบกับคนร้าย คดีของ ปปง. คดีฟอกเงินอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ คนร้ายมีฐานะ มีความรู้ มีที่ปรึกษากฎหมายทั้งหมดครับ เพราะฉะนั้นการที่จะไปดำเนินการกับเขาไม่ง่าย จำเป็นต้องมีกฎหมาย ต้องมีเครื่องมืออะไรช่วยเราบ้าง เพื่อให้เราไปต่อได้ ก็ต้องเรียนอย่างนี้
แล้วอีกอันหนึ่งก็คือมาตรฐาน FATF คือมาตรฐานสากล วันนี้เราปรับไปได้อีก ๒ ข้อแล้ว ก็เป็น ๓๓ ข้อ คือตัวกำหนดที่ต่างประเทศกำหนดให้ประเทศไทยจะผ่าน มาตรฐาน FATF และเป็นที่ยอมรับมาตรฐานทางการเงินสากลนี้มันทั้งหมด ๔๐ ข้อ วันนี้ ปปง. ทำสำเร็จไปแล้ว ๓๓ ข้อ เหลืออีก ๗ ข้อ ก็จะมีกฎหมายหลาย ๆ ฉบับด้วยกัน ซึ่งเราจำเป็นจะต้องออกกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล แล้วก็ผ่านการประเมิน ของ FATF ในปี ๒๕๗๐ กฎหมายดังกล่าว ผมเชื่อมั่นว่าภายในปีนี้ก็คือ ปี ๒๕๖๗ จะมี กฎหมายหลายฉบับที่เข้าสู่กระบวนการนิติบัญญัติ ตรงนี้ก็ต้องกราบขอความอนุเคราะห์ และช่วยสนับสนุนเราด้วยนะครับ
มีท่าน สส. อภิปรายเรื่องพระ เรายอมรับครับ ธุรกิจพระบูชา พระเครื่อง ของสะสม ของเก่า เป็นทรัพยากรส่วนหนึ่งที่คนร้ายนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมาฟอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธุ์ทิพย์พลาซ่า แต่ปัญหาของเรามีอยู่ ๒ ส่วน ส่วนที่ ๑ กฎหมาย กำหนดว่า สำนักงาน ปปง. จะกำหนดให้ผู้ใดรายงานธุรกรรมที่มีความเสี่ยงต้องเป็นนิติบุคคล แต่ถ้าเป็นบุคคลยังไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายฟอกเงิน เว้นแต่เลขาธิการประกาศเป็น รายบุคคลเท่านั้น สิ่งที่มันเป็นความจริงก็คือเซียนพระทุกรายเป็นบุคคล หลีกเลี่ยงการจด นิติบุคคล แล้วจดใบทะเบียนค้าของเก่า เสียภาษีขึ้นทะเบียนที่กระทรวงมหาดไทย แล้วไม่ลง รายการเลย แล้วก็มีการรวมกัน พระของกลุ่มใครบอกแท้ ทุกคนก็บอกแท้ ถ้านอกกลุ่มมา ก็บอกปลอม เราเองเราพยายามสร้างกฎหมายและสร้างกลไก ทำอย่างไรทรัพย์พวกนี้มันควร จะมาอยู่ในกำกับดูแล เพราะทองคำ อัญมณีเข้า วันนี้ท่านไปซื้อทองท่านจะต้องลงรายการเลย ว่าท่านซื้อทองน้ำหนักเท่าใด เป็นเงินเท่าไร ใครเป็นผู้ซื้อ ซื้อเมื่อวันใด ซื้อจากใคร ข้อมูลนี้ อยู่ที่ ปปง. แต่ถ้าเป็นพระเครื่อง พระบูชา พระสมเด็จองค์ละ ๓๐ ล้านบาท ไม่ต้องรายงาน ไม่ต้องชี้แจง คนขายก็ไม่ต้องชี้แจง คนมีไว้ก็ถือไว้เสร็จ วันนี้บอกมีมูลค่า ๑ ล้านบาท ซื้อมา ๑ ล้านบาท แต่วันไหนที่มีปัญหาบอกพระผมมีมูลค่า ๓๐ ล้านบาท มันเป็นเรื่องข้อตกลง ในวงการเท่านั้น ไม่มีมูลค่าสากล ไม่มีมาตรฐานราคากำหนดพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์นี้ ผลิตปีนี้ สร้างขึ้นมาปีนี้ต้องมีราคาเท่านี้ เป็นความเชื่อใจกันแล้วสร้างราคากันเอง ด้วยเหตุนี้ ผมยอมรับอย่างหนึ่งว่า กลไกในเรื่องของวัตถุโบราณเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินที่คนร้าย นำมาฟอก อย่างไรก็ตามเราพยายามสร้างมาตรฐาน สร้างกลไกเพื่อมาควบคุมอาจจะต้อง ใช้เวลาสักนิดหนึ่ง เนื่องจากว่ากฎหมายไม่เอื้ออำนวย เราพยายามแก้กฎหมายเพื่อเอามา ควบคุมตรงนี้ให้ได้ ก็ต้องขอบคุณท่านที่ให้ข้อมูลมา
สำหรับ บริษัท ฟุกเทียน ปปง. ได้ออกคำสั่งยึดอายัดทรัพย์มูลค่า ๖.๑ ล้านบาท ตามคำสั่ง ย. ที่ ๒/๖๖ เป็นคดีคุ้มครองสิทธิ ขออนุญาตตรวจสอบนิดหนึ่ง แล้วก็จะนำ ข้อมูลรายงานให้ท่านสมาชิกสภาทราบในโอกาสต่อไป เนื่องจากว่าข้อมูลที่ท่านอภิปรายมา ผมเองเพิ่งได้รับทราบเมื่อสักครู่นี้ แต่ทราบชื่อผู้อภิปรายแล้ว เดี๋ยวจะไปดูให้อย่างใกล้ชิด
ปัญหาอีกเรื่องหนึ่งที่ ปปง. ทำอยู่ทุกวันนี้คือคดีคุ้มครองสิทธิ วันนี้อาชญากรรม Online หลอกลงทุนเกิดขึ้นต้องเรียนก่อนว่ามหาศาล วันนี้คดีที่ร้องทุกข์ต่อสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ ในช่วง ๒-๓ ปีที่ผ่านมา น่าจะอยู่ประมาณ ๔๐๐,๐๐๐ คดี ค่าเฉลี่ยวันละ ๔๐๐ กว่าคดี ถึง ๕๐๐ คดีต่อวัน ช่องทางในการแจ้งข้อมูลเมื่อก่อนนี้เราใช้ ๑๗๑๐ ผมเห็น เหมือนท่านเลยครับว่าพี่น้องประชาชนส่งข้อมูลมาน้อยมาก เราจะรับไปดำเนินการ แล้วหาทางทำอย่างไรเพิ่มสายลับ ปปง. หรือเพิ่มภาคีเครือข่ายเพื่อส่งข้อมูลมาให้เรา ดำเนินการให้มากขึ้น แล้วหาช่องทางที่พี่น้องประชาชนจะสามารถส่งข้อมูลเบาะแส การกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินให้ ปปง. รับไปดำเนินการต่อให้มากขึ้น แต่ระหว่างนี้ ปปง. ได้ร่วมกับกระทรวง DE สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคม ธนาคาร กสทช. และอีกหลายหน่วยที่ไม่ได้เอ่ยถึง สร้างกลไกก็คือศูนย์ AOC รับคำร้องทุกข์ จากพี่น้องประชาชนทางโทรศัพท์ ที่หมายเลข ๑๔๔๑ เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายและติดตาม ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่ถูกหลอกลวงไปเอากลับมาคืน หลังจากตั้ง AOC มา เรายึดทรัพย์ได้มากขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของรายการเดินบัญชีธนาคาร ท่านทราบไหม วันนี้บัญชีธนาคารมีอยู่ ๑๒๐ ล้านบัญชี มีหมายเลขโทรศัพท์ Active อยู่ ๙๐ กว่าล้าน หมายเลข สิ่งที่เราร่วมกับหน่วยงานของรัฐรบมาตลอดคือบัญชีม้าครับ เราเปิดมาตรการ HR-03 ก็คือผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่น ฉ้อโกงหรือ หลอกลงทุน เมื่อถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งข้อมูลมาให้ ปปง. ปปง. จะประกาศบุคคลดังกล่าว เป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงและถูกจำกัดธุรกรรมทางธนาคาร ทุกบัญชีที่มี วันนี้เราประกาศรายชื่อไปแล้วประมาณใกล้ ๆ ๓๐,๐๐๐ รายชื่อ อายัดบัญชี ธนาคารไปแล้ว ๒๐๐,๐๐๐ กว่าบัญชี เกือบ ๓๐๐,๐๐๐ บัญชี มีเงินค้างอยู่ในระบบประมาณ ๖๐๐ ล้านบาท ซึ่งเจ้าของบัญชีไม่สามารถมาชี้แจงได้หรือไม่ยอมมาชี้แจง และเรากับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ร่วมกันดำเนินการในมาตรการนี้ไปเรื่อย ๆ ผมเองเป็นประธาน การประชุมทุกสัปดาห์ เพื่อประกาศรายชื่อคนที่มีส่วนพัวพันหรือเกี่ยวข้อง หรือเชื่อว่า เป็นบัญชีม้า และในอนาคต ปปง. เองก็ได้ร่วมกับกระทรวง DE และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะพยายามหาวิถีทางที่จะควบคุมดำเนินการกับบัญชีม้าและ Sim ม้า ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นและ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่านี้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการแก้ไขพระราชบัญญัติ คือของเก่า พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีข้อจำกัด หลายประการ ตอนนั้นผมเคยมาที่สภาแห่งนี้ แล้วก็บอกว่ากฎหมายฉบับนี้ควรจะแก้เป็น พระราชบัญญัติ แล้วให้มีรายละเอียดข้อบังคับหรือมาตรการที่รัฐจะคุ้มครองพี่น้องประชาชน ผู้เสียหายให้มีกลไกที่มากขึ้น วันนี้กระทรวง DE ตั้งคณะทำงานเพื่อจะไปพิจารณา แล้วจะมา ปรับกฎหมายเพื่อให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเรื่องของ อาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ Call Center ผมเชื่อว่าอีกไม่นานกฎหมายฉบับนี้จะมาถึง ณ สภาแห่งนี้ และขอให้ทุกท่านช่วยกันสร้างกลไกทางกฎหมายที่สมบูรณ์ เพื่อปกป้องพี่น้อง ประชาชนจาก Call Center ให้ได้
สุดท้ายคือในเรื่องของ พ.ร.บ. ศุลกากร ความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร เป็นความผิดมูลฐานของ ปปง. แต่ ปปง. ดำเนินการได้ต่อเมื่อ ๑. มีการจับกุมดำเนินคดี ๒. ผู้จับกุมรายงานมาที่ ปปง. ตามแบบฟอร์มของสำนักนายกรัฐมนตรี แล้ว ปปง. ถึงจะเข้าไป ตรวจสอบได้ ปปง. ไม่สามารถไปจับกุม พ.ร.บ. ศุลกากรด้วยตนเองได้ หรือมีการจับกุมแล้ว ถ้ายังไม่รายงาน ปปง. ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่ก็ขออนุญาต รับแนวคิดของท่านไว้ แล้วเราจะประสานงานกับกรมศุลกากรและพนักงานสอบสวนในสังกัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเพิ่มมาตรการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับผู้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ. ศุลกากรให้มากยิ่งขึ้นและให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับเรื่องหมูเถื่อนนะครับ หมูเถื่อนนี้เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดี ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมด ปปง. ตรวจสอบทรัพย์ ทั้งหมดแล้ว ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ ปัญหาคือการกระทำความผิดหมูเถื่อน ๑๖๑ ตู้ ที่ DSI ดำเนินคดีนี้ มันเกิดขึ้นเมื่อปลายปี ๒๕๖๓ ต่อต้นปี ๒๕๖๔ เพราะฉะนั้นเราสามารถ ดำเนินการยึดทรัพย์ได้แค่ ปี ๒๕๖๔ ปี ๒๕๖๕ จนถึงปัจจุบัน แต่ทรัพย์ที่เขามีมาก่อนหน้านี้ ก่อนที่เหตุจะเกิดเราไม่สามารถไปยึดได้ เพราะว่าการยึดทรัพย์ต้องมีหลักฐานและข้อมูล เพียงพอที่จะนำไปส่งศาล ว่ามันเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากเงินที่ได้มาจากการกระทำผิด แล้วนำมาฟอกหรือมาเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์นั้น มีคำถามหลายท่านถามมาที่ ปปง. บอกว่าแล้วทำไมคดีหมูเถื่อนยึดทรัพย์ได้น้อย ส่วนใหญ่ผู้ต้องหาเป็นนิติบุคคล กรรมการเอง ที่ตกเป็นผู้ต้องหาตรวจสอบทรัพย์แล้ว หลังจากที่มันเป็นข่าวครึกโครมมานาน ทรัพย์ที่เหลืออยู่ ให้เรายึดเหลืออยู่ประมาณไม่ถึง ๑๐๐ ล้านบาท ซึ่งผมเองผมก็มองว่าน้อย แต่มาตรการ ของ ปปง. เอง ผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์เราสามารถยึดได้ ตอนนี้ ปปง. วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ร่วมกับ DSI มันมีอีก ๒,๓๘๘ ตู้ ที่มีการนำเข้ามาแล้ว แล้วขายของไปหมดแล้ว เหลือแต่ ใบ B/L ที่เป็นกระดาษนะครับ วันนี้เรามีทีมพิเศษที่ร่วมกับ DSI วิเคราะห์ตรงนี้ เพื่อดำเนินคดี กับผู้ต้องหาที่เหลือกับของที่ขายไปแล้ว ผมเชื่อว่าอีกไม่นานคดีนี้น่าจะมีข้อมูลที่นำเสนอต่อ สาธารณะและสังคมว่า รัฐได้ดำเนินการเข้มงวดกับผู้กระทำความผิดเพียงใด ก็ต้องขอเวลา ให้ทางพนักงานสอบสวน DSI เขาทำงานสักนิดหนึ่ง แต่ผมขออนุญาตเรียนไว้ตรงนี้ว่า ผมเชื่อมั่นในพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษนะครับ จากที่ผมเห็นเขาทำงานแล้ว ผมเชื่อมั่นในตัวเขา แต่การวิเคราะห์จากเอกสารอาจจะต้องใช้เวลาบ้าง ให้เวลาสักนิดหนึ่ง
โดยภาพรวมก็ต้องขออนุญาตกราบเรียนท่านประธานสภาว่า ณ โอกาสนี้ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ข้อสังเกต ให้ข้อคิดเห็น และแนะนำการทำงานของสำนักงาน ปปง. เราจะรับทุกความเห็นของท่านไปปรับปรุงและเพิ่มสมรรถนะ เพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานให้ดีขึ้น เพื่อให้เป็นหลักหนึ่งของประเทศนี้ในการรบกับคนร้ายและองค์กร อาชญากรรม ผมเชื่อมั่นว่าในครั้งหน้าที่สำนักงาน ปปง. นำข้อมูลรายงานประจำปีมาเสนอ ณ สภาแห่งนี้ เราน่าจะมีผลงานที่ดีมากกว่าเดิม มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมและทำได้ ครบถ้วนตามที่ทุกท่านในสภาแห่งนี้หวังไว้ กราบขอบพระคุณครับ
กราบเรียนท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรครับ กระผม พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้แทนสำนัก ปปง. ขออนุญาตตอบสมาชิกที่อภิปราย ถามนะครับ ในส่วนของการใช้ทรัพย์ในความดูแลของ ปปง. ขออนุญาตรับไว้และเราจะไป พัฒนาสร้างระเบียบหลักเกณฑ์ เพื่อป้องกันการนำทรัพย์ไปให้คนอื่นใช้และมีผลประโยชน์ ทับซ้อน และจะออกระเบียบมาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติให้ได้มากที่สุด อันนี้รับไป
ในส่วนของ My Story ข้อมูลล่าสุดคดีถึงที่สุดแล้ว เราส่งทรัพย์ดังกล่าว ให้กรมธนารักษ์แล้ว ไม่มีผู้ใดนำทรัพย์ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้ ส่งทรัพย์ไปแล้ว ตอนนี้ก็คือ อยู่ระหว่างการบริหารจัดการของกรมธนารักษ์ แล้วก็อาจจะต้องมีการตรวจสอบทรัพย์สินกัน ซึ่งผมเองก็ได้นัดกับท่านอธิบดีกรมธนารักษ์ไว้วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ มาหารือแนวทาง การบริหารจัดการคอนโดทั้งหมดว่าจะทำอย่างไรดี ลูกบ้านต้องไม่เดือดร้อน แล้วจะไป อย่างไรกันต่อ การส่งทรัพย์ การตรวจสอบทรัพย์จะทำอย่างไร มันเป็นหัวข้อที่เราจะไปคุย กับกรมธนารักษ์วันที่ ๒๒ นี้
ในส่วนของ บริษัท ฟุกเทียน ก็ขออนุญาตเรียนยืนยันท่านฐากรว่าเดี๋ยวผม จะไปดูด้วยตนเอง แล้วยืนยันสัญญาได้อย่างหนึ่งครับ อะไรที่ผิดคือผิด อะไรที่ไม่ผิดต้องคืน ให้เจ้าของผู้มีกรรมสิทธิ์ กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย แล้วต้องเสมอภาคกัน มิใช่ลำเอียง ฝั่งหนึ่งฝั่งใด เราเป็นกลางแน่นอน ขออนุญาตยืนยันไว้ ณ ที่นี้ ผ่านท่านประธานสภาครับ กราบขอบพระคุณครับ