นายกิตติภณ ปรานพรหมมาศ

  • เรียนท่านประธานสภาที่เคารพ ผม กิตติภณ ปรานพรหมมาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม เขต ๔ พรรคก้าวไกล อำเภอบางเลน อำเภอดอนตูม อำเภอกำแพงแสน ในพื้นที่ตำบลสระพัฒนา และตำบลห้วยม่วง วันนี้หลังจากที่ผมได้ศึกษารายงานการเงินของกองทุนสงเคราะห์ เกษตรกร ปี ๒๕๖๔ ในฉบับนี้ ผมขอร่วมอภิปรายให้ความเห็นรายงานฉบับนี้สะท้อน การจัดการการเงินของกองทุน โดยแบ่งได้ ๓ ประเด็นที่ผมจะอภิปรายดังต่อไปนี้

    อ่านในการประชุม

  • ประเด็นแรก ผมขอกล่าวถึงสัดส่วนหน่วยงานการกู้ยืมที่ปรากฏในรายงาน ของรายงานการเงินฉบับนี้ หากวิเคราะห์และมองตามสัดส่วนแล้วจะพบว่าที่ผ่านมา หน่วยงานของรัฐได้รับการสนับสนุนเงินกู้มากที่สุด หากนับจากรายงานฉบับนี้ ถึง ๓๑ โครงการ ซึ่งองค์กรเกษตรกรอย่างสหกรณ์และวิสาหกิจชุมชนได้รับอนุมัติเพียง ๑๖ โครงการเท่านั้น จาก ๔๗ โครงการ ซึ่งผมขอตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมามีการปล่อยเงินกู้ อย่างไม่สมเหตุสมผลไปยังหน่วยงานรัฐ อย่างกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนงานราชการอื่น ๆ หรือไม่ อย่างไร ซึ่งปรากฏในรายงานฉบับนี้กว่า ๑๐ กว่าโครงการ จาก ๓๑ โครงการ เป็นหนี้สูญที่อยู่ในการบังคับคดี ผมในฐานะผู้แทนราษฎรขอตั้งคำถามเรียนท่านประธาน ผ่านไปยังผู้ชี้แจงว่ากองทุนสงเคราะห์เกษตรกรในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการจะมี วิธีการติดตามนำเงินคืนได้อย่างไร เพราะบางโครงการเป็นโครงการที่ดำเนินการมาแล้ว กว่า ๓๐ ปี ก่อนที่จะมีพระราชบัญญัติกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ปี ๒๕๕๔ ด้วย เหตุผลต่อมาจากหนี้ที่ไม่ได้รับการชำระจากหน่วยงานรัฐเมื่อเทียบดูในงบการเงินอาจดู สอดคล้องกับการรับชำระคืนจากลูกหนี้ที่ลดลงจากปี ๒๕๖๓ ถึงกว่า ๑๐๐ ล้านบาท ตามรายงานการเงินฉบับนี้ หรือเพราะว่าการติดตามเร่งรัดหนี้ค้างนั้นเป็นอุปสรรคสำคัญ เนื่องจากมีข้าราชการหรือผู้รับผิดชอบไม่ยอมเซ็นรับผิดชอบหนี้ในกรมนั้น ๆ หรือไม่

    อ่านในการประชุม

  • ประการต่อมา ในสัดส่วนของการปล่อยเงินกู้ให้กับองค์กรเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนนั้น จากรายงานงบประมาณฉบับนี้ก็มีปัญหาคล้าย ๆ กันเช่นกัน ผมจึงมี ข้อกังวลว่ากองทุนสงเคราะห์เกษตรกรนั้นได้มีการติดตามดำเนินการโครงการการจัดการ เงินกู้ตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และก่อนถึงระยะเวลาการชำระกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรนั้น ในฐานะพี่เลี้ยงได้มีการติดตามผลผลิตของโครงการซึ่งเป็นผลผลิตสินค้าที่จะแปรเปลี่ยน เป็นเงินสดที่จะใช้หนี้คืนกองทุนอย่างไรบ้าง

    อ่านในการประชุม

  • ในประเด็นวัตถุประสงค์อีกประเด็นหนึ่ง ประเด็นที่ ๓ ผมขอยกตัวอย่าง โครงการหนึ่งในโครงการรายงานการเงินฉบับนี้ เป็นโครงการกรณีสหกรณ์โคนมแห่งหนึ่ง ที่มีการกู้เงินกว่า ๕๐ ล้านบาท โดยวัตถุประสงค์ของโครงการคือการเพิ่มประสิทธิภาพ การแปรรูปนม UHT

    อ่านในการประชุม

  • นำเงินทุนมาเพื่อซื้อวัตถุดิบ อย่างน้ำนมดิบและ Packaging ซึ่งคงดูแล้วอาจจะไม่แปลกอะไรหากไม่ได้นำโครงการ ดังกล่าวมาเทียบกับบริบทกับเหตุการณ์ปัจจุบัน เมื่อ ๒ สัปดาห์ที่แล้ว ตามภาพเลยครับ ขอบคุณนะครับ ทุกสื่อออกข่าวเกี่ยวกับน้ำนมดิบที่ขาดตลาด จึงขออนุญาตนำมา เปรียบเทียบเป็นตัวอย่างเพื่อเชื่อมโยงว่าทุกโครงการควรมีการประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ ล่วงหน้า หากมีการปล่อยกู้ในระยะเวลานี้ ๑ ปี หรือ ๒ ปีก่อนหน้า เงินทุนก้อนนี้จะถูกใช้ ในการซื้อน้ำนมดิบหรือไม่ อย่างไร และในราคาที่เป็นธรรมกับเกษตรกรโคนมมากน้อย เพียงใด ประเด็นนี้ผมอยากชวนคิดนะครับ หากเรามีเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล Data ที่หลากหลายที่จะคาดเดาปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อโครงการและนำมาวิเคราะห์ การปล่อยกู้และมีการใช้ประกอบข้อมูลก็คิดว่าน่าจะทำให้มีประสิทธิภาพในการชำระหนี้ มากขึ้น

    อ่านในการประชุม

  • ภาพถัดมา ผมขอกล่าวถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่อธิบายปรากฏการณ์ ของอาหารสัตว์ที่ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด ๒-๓ ปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่ากองทุนสงเคราะห์ ภายใต้การดูแลของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบและเข้าใจแนวโน้ม เรื่องนี้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีราคาพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ ถึงปี ๒๕๖๖ กว่า ๔๐ เปอร์เซ็นต์ต่อกิโลกรัม สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ทุกหย่อมหญ้า ผมจึงอยากเรียนถามท่านประธานสอบถามผ่านไปยังผู้ชี้แจงว่าท่านได้มี โครงการเชิงรุกในการค้นหาโครงการจากหน่วยงานรัฐหรือองค์กรการเกษตรกรที่วิจัย พัฒนาการดำเนินการแก้ไขประเด็นนี้หรือไม่ อย่างไร เพราะผมคิดว่าราคาอาหารสัตว์ ที่สูงขึ้นนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเกษตรทั้งระบบครับ

    อ่านในการประชุม

  • สุดท้ายนี้ ผมก็อยากเสนอแนะสั้น ๆ ฝากไว้ประมาณ ๓ ข้อ จากการอ่าน รายงานฉบับนี้นะครับ

    อ่านในการประชุม

  • ข้อแรก สิ่งที่ผมอยากให้เพิ่มเติมคือการส่งเสริมกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ก็คือการสนับสนุนโครงการซึ่งเป็นโครงการที่ไม่ใช่นิติบุคคลเพื่อเฟ้นหาเกษตรกรรุ่นใหม่ และโครงการใหม่ ๆ ให้เข้าถึงกองทุนได้มากขึ้น

    อ่านในการประชุม

  • ข้อ ๒ ควรต้องมีการวิเคราะห์ผลประโยชน์การดำเนินการของโครงการ ในกองทุนว่ามีการคุ้มทุนในมิติเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร แล้วนั่นจะเป็นปัจจัยที่สามารถ เก็บเงินจากผู้กู้ได้ครบถ้วน

    อ่านในการประชุม

  • ข้อสุดท้าย จะดีหรือไม่ถ้าเราเปลี่ยนกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรส่วนหนึ่ง เป็นการผลักดันเชิงรุก ทำงานเชิงรุกเพื่อค้นหา เฟ้นหาโครงการที่มีความหลากหลาย และมีประสิทธิภาพที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มกับเกษตรกรไทยให้มีชีวิตที่ดีขึ้น นำเม็ดเงินเข้าสู่ กองทุนเพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกรที่มีความเดือดร้อนให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ขอบคุณครับ

    อ่านในการประชุม