เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๖ คนอำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ พรรคก้าวไกล วันนี้ ดิฉันจะขออนุญาตเป็นส่วนหนึ่งในการอภิปรายเรื่องปัญหาที่ดินทำกินของพี่น้องเกษตรกร ของเราด้วยนะคะ พื้นที่ของดิฉันเป็นพื้นที่ที่อยู่ชายแดน ประกอบไปด้วยอำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว และอำเภอไชยปราการ
ท่านประธานคะ โฉนดรวมกันทั้งหมดไม่ถึง ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ท่านประธานสภาฟังไม่ผิดแน่นอน รวมกันทั้งหมด ไม่ถึง ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นเอกสารของรัฐทั้งหมดเลย ซึ่งประกอบไปด้วยอุทยานแห่งชาติ ดอยผ้าห่มปก อุทยานแห่งชาติผาแดง อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อุทยานแห่งชาติศรีลานนา และยังไม่พอ ยังมีเขตป่าสงวนอีก เขตป่าสงวนยังไม่พอ ยังมีเขตรักษาพันธุ์อีกในเขตของดิฉัน ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ก็คือความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวกับกฎหมายกับพี่น้อง ประชาชน พี่น้องประชาชนตกเป็นผู้กระทำความผิด เนื่องจากการเกิดในพื้นที่ป่า พื้นที่ป่า ที่พูดถึงก็คือพื้นที่ที่รัฐประกาศทับพื้นที่ที่ดินทำกินของพี่น้องเกษตรกรด้วย พี่น้องของเรา โดนขับไล่ โดนดำเนินคดี ด้วยนโยบายทวงคืนผืนป่าจากรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้ ยังไม่พอค่ะ โดยกฎหมายที่ยังต้องต่อสู้กันต่อไปแบบนี้ โดยกฎหมายที่ชราภาพเหลือเกิน มันควรจะมี การเปลี่ยนแปลงได้หรือยังคะ
ยกตัวอย่างบ้านปาง นี่คือแผนที่ของบ้านปาง ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ จุดกลาง ๆ เป็นพื้นที่ของหมู่บ้านปาง แต่ไม่สามารถออกโฉนดได้ จุด ๑๐๓๖๐๘ เลข ๘ อยู่นอกเขต แต่อยู่ในเขตป่า แต่สามารถออกโฉนดได้ค่ะท่านประธาน แบบนี้มันมีคำถาม จากดิฉันแล้วก็พี่น้องประชาชนที่ฝากมาถามท่านประธานว่าแบบนี้ก็ได้หรือคะท่านประธาน
Slide ต่อไป บ้านห้วยทราย ตำบลแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านนี้ตั้งตั้งแต่ปี ๒๓๘๖ ภายหลัง ๑๔๖ ปีให้หลัง อุทยานแห่งชาติศรีลานนา ออกประกาศพื้นที่ทับที่ดินทำกินของพี่น้องทั้งหมด พี่น้องของเราก็ไม่มีการย่อท้อ ใช้วิธีการ ขับเคลื่อนมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ ไม่เคยอยู่นิ่ง ขอเพิกถอนพื้นที่ของหมู่บ้านทั้งหมด จนมาถึงทุกวันนี้ ๒๐ กว่าปีแล้วยังไม่มีการเพิกถอนใด ๆ เลย แล้วแบบนี้พี่น้องบ้านห้วยทราย จะอยู่แบบนี้ไปอีกกี่ปี
Slide ต่อไป เป็นเอกสารที่พี่น้องของเราได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ แล้ว นี่คือบ้านอรุโณทัย ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านนี้ตั้งแต่ปี ๒๕๐๔ กองทัพบกได้ขอใช้พื้นที่กับป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อให้กับกลุ่มทหารจีนคณะชาติที่ร่วมสู้รบ ที่ดอยผาตั้ง เขาค้อ เมื่อ ๖๐ ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันนี่คือสภาพของบ้านอรุโณทัย ไม่เหลือ สภาพของความเป็นป่า ตอนนี้มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด ๓,๐๐๐ กว่าครัวเรือน จำนวน ประชากรทั้งหมดประมาณ ๒๕,๐๐๐ กว่าคน แต่สภาพของความเป็นป่าไม่มี แต่ไม่สามารถ ดำเนินการในเรื่องของระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้เลย
Slide ต่อไป เป็นรูปการขนน้ำ นี่คือวิถีชีวิตคนที่อยู่ในเขตป่าที่ถูกทับที่อยู่ คือต้องขนน้ำ นี่คือน้ำใช้ ไม่ใช้น้ำกิน ไม่ต้องพูดถึงระบบสาธารณูปโภคอย่างอื่นเลย แค่สวัสดิการ แบบนี้ยังไม่สามารถเข้าถึงได้เลย ยังไม่พอ ปัญหาเรื่องน้ำ เรื่องไฟ เรื่องถนนหนทาง คนที่รู้ปัญหาที่ดีที่สุดคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากนายกท้องถิ่นที่รับปัญหา แบกรับภาระ แบกความหวังของพี่น้องมาโดยตลอดว่าเข้ามาเพื่อจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ไม่สามารถ แก้ไขปัญหาได้ในเรื่องของอำนาจในการตัดสินใจ ทั้งหมดยังไม่พอ อำนาจในการตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่รัฐส่วนกลาง ยกตัวอย่าง เช่นการขออนุญาต ทำถนน ๑ เส้น ระยะเดินทางในการขออนุญาต ท่านนายกบางท่านตั้งงบประมาณไว้ตั้งแต่ รับตำแหน่งจนถึงหมดวาระตำแหน่งแล้วยังไม่สามารถขออนุญาตได้เลยค่ะ แบบนี้ไม่สามารถ เจริญต่อไปได้เลย มันจะดีกว่าไหมเมื่อถนนหนทางหรือระบบสาธารณูปโภคทั้งหมด ความเจริญ ความสะดวกสบายของพี่น้องของเราทั้งหมดมันควรจะโอนอำนาจไปให้กับ ท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นในการพิจารณาซ่อม สร้าง เพื่อให้เข้าถึงระบบความเจริญต่อไป ดิฉันว่าตอนนี้ถ้ารัฐจะออกโฉนดก็ออกโฉนดไปเลย จะออกใบรับรองสิทธิหรือว่าอะไร ก็ทำไปเลย แต่วันนี้เราทุกคนควรจะให้ที่ดินชอบด้วยกฎหมายได้แล้ว การจะแก้ไขญัตติ ทั้งหมดที่เราพูดมาดิฉันว่าควรจะแก้ไขให้เป็นอันเดียวกันทั้งหมดไปเลย ไม่ว่าจะเป็น เขตอุทยาน เขตป่าสงวน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดิฉันกลับมาอ่านเล่มนี้ทั้งหมดในชุดที่ ๒๕ ที่ผ่านมา มีแนวทางชัดเจนแน่นอนอยู่แล้วว่าเราจะต้องทำอะไรบ้าง เหลือเพียงอย่างเดียว เหลือแต่ความจริงใจ จริงจัง ที่เราจะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ถ้าหากวันนี้ยังไม่มี การแก้ไข พี่น้องประชาชนของดิฉันฝากมาเป็นภาษาเหนือบอกว่า ข้าเจ้าอยู่บ้าน ก๋านงาน ก่อบ่มี ฮับจ้างยิ้บสลี หัวมีก้างิ้ว ขอบคุณค่ะท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๖ คนอำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ วันนี้ดิฉันมีเรื่อง ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมาหารือท่านประธาน ขอ Slide ด้วยค่ะ
เรื่องที่ ๑ ก็คือ เรื่องกล้องวงจรปิดแยก Bypass ถนน ๑๐๗ ทางเข้าอำเภอเชียงดาว แยกที่ ๒ แยก Bypass ถนน ๑๐๗ ทางเข้าถ้ำเชียงดาว แยกที่ ๓ ถนน ๑๐๗ ปากทางเมืองงาย ก็คือ ๓ เส้นทางนี้ เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางไม่ว่าจะไปอำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย เชื่อมไปถึงจังหวัดเชียงรายด้วยนะคะ ทั้ง ๓ จุดนี้เกิดอุบัติเหตุ บ่อยมาก เกิดการเสียชีวิตหลายครั้งแต่ไม่สามารถย้อนดูเหตุการณ์ได้ เนื่องจากจุดนี้ทั้งหมด ไม่มีกล้องวงจรปิด หลายรายที่จะต้องเสียชีวิตฟรี พี่น้องประชาชนก็แจ้งไปหน่วยงานนั้น ก็ให้ไปหน่วยงานนี้ หน่วยงานนี้ก็ให้ไปหน่วยงานนั้น วันนี้ดิฉันจึงอยากจะขอใช้พื้นที่สภา แห่งนี้เรียนท่านประธานฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดสรรงบประมาณในการติดตั้ง กล้องวงจรเปิดที่ไม่ปิดค่ะ คือที่สามารถใช้งานได้จริงเพื่อลดปัญหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และการสูญเสียของพี่น้องประชาชนด้วยค่ะ
เรื่องที่ ๒ เรื่องถนนทางหลวงชนบท ๓๐๔๗ ทางไปโรงเรียนบ้านปางแดง เส้นทางนี้ทุลักทุเลมากค่ะ หน้าร้อนฝุ่นตลบอบอวล หน้าฝนก็จะเละประมาณนี้ค่ะ คือว่าพื้นที่การศึกษาห่างไกลแล้วจะต้องมาเจอชีวิตที่ย่ำแย่แบบนี้มันยิ่งไปกันใหญ่ เบื้องต้น ประสานหน่วยงานท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว แต่เป็นโครงการที่เกินศักยภาพของท้องถิ่น วันนี้ จึงอยากจะเรียนท่านประธานฝากไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ช่วยสนับสนุน งบประมาณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีปัญหารูปแบบเดียวกันแบบนี้ค่ะ เพื่อให้ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อีกเรื่องหนึ่งนะคะ เส้นทางจากดอยม่อนล้าน อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ เชื่อมไปยังอำเภอเวียงป่าเป้า เชื่อมอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เป็นเส้นทางดิน ตามรูปภาพนี้เลย ตามเส้นทางนี้เลยนะคะ หลายครั้งพี่น้องประชาชนเดินทางไปโรงพยาบาล จะต้องมีการสุ่มเสี่ยงในระหว่างทางเพราะเดินทางไปไม่ถึงโรงพยาบาลค่ะ วันนี้ดิฉัน จึงอยากจะเรียนท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสนับสนุนงบประมาณ ในการก่อสร้างถนนเส้นนี้เป็นถนนเชื่อมระหว่างจังหวัดด้วยค่ะ ดังสุภาษิตโบราณล้านนา ได้กล่าวไว้ว่า จิ้นบ่เน่าหนอนตึงบ่จี กำบ่มีเปิ้ลตึงบ่ว่านะเจ้า ถ้าหากถนนหนทางหรือว่า โครงสร้างดีพี่น้องประชาชนก็คงไม่เดือดร้อน ขอบคุณมากค่ะท่านประธาน
ท่านประธานคะ ๔๗๘ อรพรรณ จันตาเรือง แสดงตนค่ะ
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๖ คนอำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ วันนี้ในฐานะตัวแทน ของพี่น้องประชาชนที่อยู่ชายแดน อยู่ชายขอบ วันนี้ขอร่วมอภิปรายญัตติพิจารณา แนวทางการจัดการศึกษาสำหรับเด็กที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนหรือไม่มีสัญชาติไทย คำว่า เด็กไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ยังไม่พอค่ะ ชีวิตยังไร้หลักประกันอีกนะคะ คำว่า เด็กตัว G คือเป็นเด็กที่ไร้สถานะทางทะเบียน เป็นการขึ้นทะเบียนให้กับโรงเรียนเพื่อที่จะมาเบิก ในเรื่องของค่าอาหารเสริมนมและอาหารกลางวัน ซึ่งเด็กทั้งหมดไม่มีสถานะทางทะเบียน ไม่เกี่ยวกับการปกครอง ไม่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทยแต่อย่างใดเลย เด็กทุกคนที่มาอยู่ใน ประเทศไทยที่มาเรียนหนังสือ บางรายได้เรียนหนังสือ ได้รหัสตัว G ก็จริง พื้นที่ของดิฉัน อยู่ชายแดน เด็กตัว G ที่ไร้สัญชาติกับเด็กสัญชาติไทย เราเรียนโรงเรียนด้วยกันค่ะ ดิฉันมีเพื่อนที่เป็นคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกัน ทำงานร่วมกัน แล้วเด็กพวกนี้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเราเรียนกับเด็กสัญชาติไทยทั้งหมดเลย แต่ปัญหา อยู่ที่ว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องการศึกษาเท่านั้น ปัญหาหลักอีกด้านหนึ่งก็คือในเรื่องของสิทธิ ในการรักษาพยาบาลหรือเข้าถึงระบบสาธารณสุข เด็ก ๑ คนอาจจะเป็นเด็กที่ข้ามไปข้ามมา ระหว่างรัฐไทยแล้วก็อีกรัฐหนึ่งที่อยู่ติดกับชายแดน แต่ถ้าเด็กทั้งหมดไม่ได้รับการรักษาพยาบาล หรือได้รับวัคซีน แต่เด็กอยู่ร่วมกับเด็กไทยค่ะ การเกิดการแพร่ระบาด แม้กระทั่งเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาโรคบางโรค โรคติดต่อที่เคยหายไปจากประเทศไทยแต่กลับคืนมา ไม่ว่าจะเป็นโรคมือเท้าปาก ที่พื้นที่ของดิฉันเด็กนักเรียนเป็นเยอะมาก แล้วก็ติดต่อระบาด ไปทั่วทั้งจังหวัด เหตุผลอีกอันหนึ่งก็คือเด็กตัว G ไม่สามารถได้รับวัคซีนอันนี้ก็คือปัญหา มันเกิดการระบาดพื้นที่หนึ่งปุ๊บ ในส่วนตัวของดิฉันอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ก็เหมือนกัน ถ้าหาก เด็กคนหนึ่งได้รับโรคระบาดมาเอาไปแพร่ในจังหวัดเชียงใหม่ ดิฉันเดินทางมาในสภาแห่งนี้ วันนี้ดิฉันก็เป็นพาหะนำมาให้กับสภาเช่นเดียวกัน มันคือการแก้ไขปัญหา ถ้าหากวันนี้ รัฐยังไม่ให้การสนับสนุนกับเด็กทุกคนได้เข้าถึงระบบการรักษาพยาบาลหรือวัคซีนให้ทั่วถึง การแก้ไขในเรื่องพวกนี้มันจะเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ การป้องกันมันใช้งบประมาณน้อยกว่า การที่เราจะมารักษาและเยียวยา ดิฉันจะให้มองเห็นอีกมิติหนึ่งเด็กตัว G คือจะถูกกำหนด ตั้งแต่เข้าโรงเรียน แต่หลังจากที่เด็กหมดไปจากโรงเรียน หรือเรียนถึงแค่ ป. ๖ รหัสตัว G นี้ ก็จะหายไปแล้ว และเด็กกลุ่มนี้ก็จะเข้าไปในส่วนของแรงงานแต่ก็ไม่สามารถทำงานได้ ต้องไปถูกตำรวจหรือหลาย ๆ ทาง ทางแรงงานหรือตำรวจที่ผิดกฎหมายเข้ามาในเรื่องของ การรีดไถในการทำงานในประเทศไทยอีกต่อไปนี่ก็จะเป็นอีกปัญหาหนึ่ง แล้วยังไม่พอ ระยะ ๑๐ ปีที่ผ่านมามติของรัฐมนตรีในวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๒ ในเรื่องของการคืนสิทธิ ขั้นพื้นฐานในระบบสาธารณสุขแก่กลุ่มผู้ที่มีปัญหาทางสถานะและสิทธิ และยังมีมติ คณะรัฐมนตรีวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๘ ให้คืนสิทธิเฉพาะกลุ่มแต่ไม่ควบคุมกับเด็กตัว G ตอนนี้ผ่านไปแล้ว ๑๐ กว่าปีแล้วยังไม่มีการแก้ไขใด ๆ เลยค่ะ วันนี้ยังไม่พอยังส่งผลถึง โรงพยาบาลที่อยู่ชายแดน ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตากที่ติดขอบชายแดนทั้งหมด เรื่องของโรงพยาบาลที่อยู่ชายแดนจะต้องแบกรับภาระ ไม่ใช่แค่คนที่มีสถานะทางทะเบียน แต่วันนี้โรงพยาบาลจะต้องดูแลทั้งมีทะเบียนและไม่มี ทะเบียน ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงพอ แต่พอเวลารัฐอุดหนุนงบประมาณ จะคิดในอัตราแค่คนที่มีสถานะทางทะเบียน แต่ในสภาพของความเป็นจริงแล้วบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนโรงพยาบาลก็จะต้อง ทำการรักษาค่ะ อันนี้ก็จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ดิฉันฝากท่านประธานไปยังกระทรวง สาธารณสุขช่วยสนับสนุนงบประมาณกับโรงพยาบาลที่อยู่ชายแดน ชายขอบ ในเรื่องของ การดูแลบุคลากรแฝง บุคลากรซ้อน บุคลากรที่ไร้รัฐ ไร้สัญชาติด้วยนะคะ ถ้าหากเด็กที่ไร้รัฐ ไร้สัญชาติได้รับการรักษา ได้รับการดูแล แม้กระทั่งในเรื่องของการเรียน การรักษาพยาบาล การแรงงาน ทั้งหมดปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันจะจบ แล้วแรงงานที่เกิดขึ้น เด็ก ๆ น้อง ๆ ทุกคนที่หลุดออกจากการเรียนแล้ว เขาจะได้ไม่สร้างปัญหาให้กับเราอีกเหมือนทุกวันนี้ น้อง ๆ ที่จบจากโรงเรียนแล้วไม่ได้เรียนต่อจะต้องข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อไปทำงานเป็น Call Center ที่มาเป็นปัญหาของเราทุกวันนี้ รัฐก็จะต้องใช้งบประมาณในการตรวจสอบ ในการหา มันเป็นปัญหาใหญ่ค่ะท่านประธาน แต่ถ้าวันนี้การป้องกันมันดีกว่าการรักษา พี่น้องไทยใหญ่ในโซนบ้านของดิฉันฝากมาบอกว่า จะเฮ็ดสัง เฮ็ดแต้ ๆ จะเฮ็ดจ้อแจ้ เฮ็ดอิหยัง ก็เหมือนประมาณว่าการแก้ไขปัญหา ถ้าหากจะแก้ไขแบบจริงจัง ปัญหามันจบแน่นอนค่ะ ดิฉันจึงขอเห็นร่วมและสนับสนุนกับคณะกรรมาธิการชุดนี้ให้เกิดการแก้ไขอย่างจริงจังด้วย ขอบคุณมากค่ะท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง พรรคก้าวไกล ขอเสนอรายชื่อกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... สัดส่วนพรรคก้าวไกล จำนวน ๖ คน ๑. นายวรภพ วิริยะโรจน์ ๒. นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ๓. นายกฤช ศิลปชัย ๔. นายสรพัช ศรีปราชญ์ ๕. นางสาวอชิชญา อ๊อตวงษ์ ๖. รองศาสตราจารย์ธนพล เพ็ญรัตน์ ขอบคุณค่ะท่านประธาน ขอผู้รับรองด้วยค่ะ
กราบเรียน ท่านประธานสภาที่เคารพ ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด เชียงใหม่ เขต ๖ อำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ พรรคก้าวไกล วันนี้ดิฉันต้องขอขอบคุณผู้ที่มาชี้แจงรายงานการปฏิบัติงานของ กสทช. ด้วยนะคะ ดิฉันได้เปิดดูรายงานการปฏิบัติงานของ กสทช. ในหนังสือเล่มนี้ ในหน้า ๖ ข้อ ๓ จัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วไป บริการสังคม USO เพื่อยกระดับให้การบริการ การแพทย์และระบบสาธารณสุขทั่วประเทศ จัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการ Internet ความเร็วสูงพื้นที่ชายขอบ Zone C+ จำนวน ๓,๙๒๐ หมู่บ้าน และ Internet ความเร็วสูงพื้นที่ห่างไกล Zone C จำนวน ๑๕,๗๓๕ หมู่บ้าน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และการเข้าถึงบริการให้เท่าเทียมกัน ปัจจุบันได้เปิดใช้บริการแล้วทั้งหมด ๑๙,๖๕๕ หมู่บ้าน รวมทั้งจุดบริการ ๒๙,๗๔๘ โดยใช้งบประมาณทั้งหมด ๑.๓ หมื่นล้านบาท โครงการนี้ดิฉัน คิดว่าเป็นโครงการที่ดีมาก แล้วยังไม่พอนะคะ มันยังเป็นโครงการที่เขตบ้านดิฉัน เข้าข่ายเลยก็คือในพื้นในที่ชายขอบ Zone C และอีกอย่างหนึ่งก็คือพื้นที่ห่างไกล Zone C ตัดภาพมาค่ะ ในพื้นที่บ้านของดิฉันนะคะ ขอ Slide หน่อยค่ะ
อันนี้นะคะ พื้นที่ของ บ้านดิฉัน แทบจะทุกหมู่บ้านทุกอำเภอจะมีตัวนี้อยู่ในแทบจะทุกหมู่บ้านของเรา ดิฉันก็เลย สงสัยและคลางแคลงใจมาโดยตลอดว่าทำไม วันนี้ได้โอกาสจากพี่น้องประชาชนได้มอบหมาย ให้มาทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวบ้าน ก็เลยนำปัญหา เรื่องนี้มาหารือทางท่านประธาน ฝากไปจนถึงผู้ชี้แจงด้วยนะคะ คือก่อนหน้านี้ดิฉันก็ได้รับ ข้อมูลมาจากหลาย ๆ ท่าน วันนี้ต้องขออนุญาตอ้างถึงข้อมูลในการอภิปรายวันนี้ก็คือ คุณสมทบ จำรัส ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่ป๋าม ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว คุณไพศาล ด้วงทอง กำนันตำบลแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว คุณวรกานต์ กาเรือง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแสนไห อำเภอเวียงแหง พี่น้องประชาชนปางควาย ตำบลเมืองคองด้วยค่ะ พื้นที่ของเราเป็นพื้นที่ ชายแดนติดชายขอบ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้เลยนะคะ แต่ดิฉันได้ถามกับประชาชนทุกคนว่า ตู้นี้มันคือตู้อะไร พี่น้องประชาชนก็เลยบอกว่านี่คืออนุสาวรีย์เน็ตฟ้าประชารัฐค่ะ ดิฉันก็เลย ถามไปว่าทำไมต้องใช้คำว่า อนุสาวรีย์เน็ตฟ้าประชารัฐ พี่น้องตอบเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า Internet ที่ใช้บนฟ้า คนธรรมดาอย่างเราใช้ไม่ได้ หน้าตาแบบนี้ค่ะ ขอ Zoom เข้าไป ก็จะเห็นแล้วว่ามันมีตราของ กสทช. อยู่ เป็นสัญลักษณ์ที่เราเห็นได้ชัดมาก
ต่อไปค่ะ นี่คือบริษัทผู้รับเหมาเลยค่ะ คือดิฉันก็ไม่ต้องบอกว่ามันมีบริษัท ไหนบ้าง ท่านผู้ชมทางบ้านแล้วก็พี่น้องในสภาของเราช่วยดูด้วยว่ามีบริษัทอะไรบ้าง ประเด็น ก็คือด้วยงบประมาณขนาดนี้ เยอะขนาดนี้ อยากจะสอบถามท่านประธานไปยังผู้ที่ชี้แจงว่า ท่านทำได้อย่างไร ทำให้มันใช้ไม่ได้แบบนี้ทำได้อย่างไรคะ แล้วอีกอย่างหนึ่งขอสอบถามก็คือ การดำเนินการโครงการนี้จบไปแล้ว ท่านมีการประเมินผลอย่างไร มีการตรวจสอบ บ้างไหมว่ามันใช้ได้จริงไหม อะไร อย่างไร ด้วยโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ไม่ใช่แค่เขต บ้านของดิฉันนะคะ เท่าที่เข้าไปดูมันมีทั่วประเทศไทยเลย อยากจะให้ท่านประธานฝากไปยัง ผู้ที่ชี้แจงให้ดำเนินการปรับปรุงโครงการนี้ให้ใช้ได้จริงตามวัตถุประสงค์ ประโยชน์กับพี่น้อง ประชาชนของเรา และคุ้มค่าในการใช้งบประมาณภาษีของพี่น้องประชาชนของเรา แต่ถ้าหากยังเป็นอนุสาวรีย์ Net ฟ้าประชารัฐแบบนี้ พี่น้องของดิฉันฝากมาบอกว่า แบบจะอี้ จะไว้ใจ๋ได้กา ขอบคุณค่ะท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ คนอำเภอ เชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ พรรคก้าวไกล วันนี้ดิฉันคิดว่า เรื่องน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตทุกคน และเพื่อน ๆ สมาชิกทุกคนก็อภิปรายว่าน้ำคือชีวิต ขาดไม่ได้สำหรับทุกคนแน่นอน ซึ่งวันนี้ดิฉันจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอภิปรายญัตติ พิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหา การขาดแคลนน้ำบาดาล และปัญหาน้ำบาดาลคุณภาพต่ำ ท่านประธานคะ ท่านลองคิดภาพ ตามดิฉันนะคะ ตั้งแต่เราเกิดจนถึงเราเสียชีวิต ตั้งแต่เราตื่นนอนจนถึงเราหลับ มีช่วงไหนบ้าง ที่เราไม่ใช้น้ำในการดำเนินชีวิตเลย ประเทศไทยเรามีปัญหามากมายตามที่เพื่อน ๆ สมาชิก ทุกท่านได้อภิปรายร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการจัดการน้ำ ในเรื่องของปัญหา ขาดแคลนน้ำ ในเรื่องน้ำขุ่น น้ำไม่ใส อีกร้อยอัน พันอย่าง มีมากมาย แล้ววันนี้ ยิ่งไปกันใหญ่สำหรับพื้นที่ชายขอบชายแดนของดิฉัน ๘๐-๙๐ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ส่วนมาก ไม่ต้องถามหาว่าจะเป็นน้ำประปาภูมิภาค น้ำประปานครหลวง น้ำประปาอะไรก็ช่าง ที่เขตบ้านดิฉันมีแต่น้ำประปาภูเขา คำว่าน้ำประปาภูเขาของเรา ขอ Slide ด้วยค่ะ
น้ำประปาภูเขา อันนี้ ใช้วิธีการต่อตรงแบบนี้ น้ำประปาภูเขาของเราได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติแบบนี้ ใช้ต่อตรง แบบนี้ คำว่า ต่อตรง ของเราก็คือต่อตรงจากแม่น้ำเลย ซึ่งไม่ผ่านกรองอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น ทำไมถึงไม่ผ่านกรองใช่ไหมคะ ก็เพราะมีนายกคนหนึ่งท่านได้มาระบายให้ฟังว่าน้ำแม่แมะ สายหนึ่ง รู้ไหมว่าน้ำเส้นหนึ่งใช้กี่หมู่บ้าน ใช้ ๔-๕ หมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านแม่นะ บ้านป่าบง บ้านจอมคีรี บ้านห้วยโจ้ ใช้น้ำเส้นเดียวกันหมดเลยแต่ไม่ผ่านการกรอง เพราะอะไรคะ เพราะว่าพื้นที่ของเทศบาลไม่สามารถขอใช้พื้นที่ในเขตป่าได้ เนื่องจากติดปัญหาในเรื่อง ของป่า แค่จะใช้พื้นที่แค่ ๑ เมตร คูณ ๑ เมตร ต้องขออนุญาตอธิบดีกรมป่าไม้ แล้วยังไม่พอ พื้นที่ที่เคยขอไป ไปกองกันตรงที่อธิบดีกรมป่าไม้หมดแล้ว ตอนนี้มีประมาณ ๑๐,๐๐๐ กว่าเรื่อง แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาใด ๆ เลย ยังไม่พอ ยังมีพื้นที่ น.ส.ล. ที่เรียกว่าหนังสือสำคัญ สำหรับที่หลวง ขออนุญาตต้องขอจากผู้ว่าราชการจังหวัด นายกบางรายทำเรื่องตั้งแต่ รับตำแหน่งจนหมดวาระไปแล้วยังไม่สามารถดำเนินการได้เลย แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดบางคน มาบรรจุไม่ถึงเดือนก็ต้องย้าย ยังไม่ทันรู้เลยว่าที่ น.ส.ล. อยู่ที่ไหนบ้าง แล้วใครที่รู้ปัญหา ที่ดีที่สุด ไม่ใช่นายกท้องถิ่นหรือคะ แล้วแบบนี้ยังไม่กระจายอำนาจอีกหรือ พี่น้องประชาชน บ้านดิฉันต้องซื้อน้ำอุปโภคบริโภค อันนี้คืออนุสาวรีย์ที่มีไว้แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ซื้อน้ำวันละ ๒๐๐-๓๐๐ บาทต่อน้ำ ๒,๐๐๐ ลิตร แบบนี้ทุกวัน ไม่ต้องถามหาคุณภาพว่า น้ำจะดื่มได้หรือเปล่า แค่น้ำจะใช้ยังไม่มีพอเลย ยิ่งช่วงหน้าแล้งยิ่งไปกันใหญ่ อันนี้คือ น้ำในโรงพยาบาลเชียงดาว คุณภาพน้ำตามนี้เลยค่ะ ช่วงหน้าแล้งดิฉันอยากจะชวนมาดู มหกรรมขนน้ำที่อำเภอเชียงดาว วิ่งแข่งกันจนให้สมกับความต้องการของพี่น้อง ประชาชน ในพื้นที่ของดิฉันต้องนำเงินมาซื้อน้ำ ทั้ง ๆ ที่ควรจะซื้อข้าว ซื้ออาหาร ซื้อเครื่องใช้ให้ลูก ไปโรงเรียน แต่ชีวิตต้องมาถูกบีบบังคับให้ซื้อน้ำใช้อุปโภคบริโภค แล้วไม่สามารถเข้าถึง โครงสร้างพื้นฐานแบบนี้ได้ ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค การจัดการปัญหามากมาย หลายอย่างขึ้นอยู่กับอะไรกันแน่ ขึ้นอยู่กับกฎหมายหรือขึ้นอยู่กับการมีเงิน ปัญหาขาดแคลน น้ำอุปโภคบริโภค นี่คือการยกตัวอย่างในพื้นที่ของดิฉัน ไม่ว่าจะเป็นอำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ เกิดปัญหาแบบนี้ทั้งหมดเลย โดยเฉพาะ พื้นที่ที่เกี่ยวกับน้ำประปาขุ่น ยังไม่พอค่ะ พี่น้องบ้านของดิฉันฝากมาบอกว่าไม่ว่ารัฐบาล ชุดไหนเวลามาหาเสียงก็บอกว่าจะแก้ไขในเรื่องปากเรื่องท้อง แก้ไขในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนั้นเลย แต่วันนี้รัฐบาลก็ผ่านไปหลายรัฐบาลแล้วก็ยังไม่สามารถแก้ไขโครงสร้างพื้นฐาน แบบนี้ได้เลยแล้วจะแก้ไขปัญหาอะไรได้ ยังไม่พอค่ะ ชาวบ้านดิฉันฝากมาบอกว่า สูงไหนหื้อก๊ำ ต่ำล้ำหื้อยอ หลักต๋อหื้อขุดกุ่น ดิฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ พิจารณาแนวทางการจัดการน้ำประปาทั้งระบบ และการแก้ไขน้ำประปาชาวไทยค่ะ ขอบคุณค่ะ ท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๖ คนอำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ พรรคก้าวไกลค่ะ ก่อนอื่นวันนี้ดิฉันในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้องขอขอบคุณสภาแห่งนี้ที่ให้ความ สำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหมอกควัน PM2.5 ที่ส่งผลกระทบมานานกว่าสิบปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ยังไม่มีกฎหมายหรือข้อบังคับใช้อันไหนอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาค่ะ ท่านประธาน ดิฉันจะไม่ขอพูดถึงสาเหตุของการเกิดหมอกควัน PM2.5 เนื่องจากเพื่อน สมาชิกหลายท่านของดิฉันได้อภิปรายไปหมดแล้ว ดิฉันจะขอพูดถึงพื้นที่บ้านของดิฉันค่ะ เป็นพื้นที่ชายขอบ ชายแดน ร้อยละ ๘๐ เปอร์เซ็นต์เป็นพื้นที่ป่า หลายครั้งตกเป็นจำเลย เป็นผู้ก่อเหตุ สร้างปัญหาหมอกควัน ควันพิษ PM2.5 มาโดยตลอด
แต่ท่านประธานคะ คนที่อยู่ชายขอบชายแดนนี้ล่ะค่ะทุกคนเขาก็รักชีวิตค่ะ เขาก็มีครอบครัว และเขาก็ต้องการ อากาศสะอาดเหมือนกับทุก ๆ ท่าน เมื่ออากาศสะอาดเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ทุกคน และทุกคนมีสิทธิที่จะสูดอากาศประเทศได้เท่ากันทุกคน แต่ย้อนกลับคืนไปกว่าสิบปี ที่ผ่านมารัฐส่วนกลางใช้วิธีการจัดการในรูปแบบสั่งการแบบแนวดิ่ง โดยใช้วิธีการสั่งการ จากด้านบนลงสู่ด้านล่างมาโดยตลอด โดยใช้วิธีการสั่งการจากผู้มีอำนาจที่นั่งจากห้อง Air ไปบังคับใช้กับพี่น้องประชาชนที่ไม่เข้าใจในพื้นที่ ไม่เข้าใจบริบทพื้นที่อย่างแท้จริง การจัดการแบบนี้เป็นการจัดการที่ล้มเหลวมาโดยตลอด รัฐก็รู้ดีว่าล้มเหลวมาโดยตลอด แต่รัฐ ก็ยังเลือกใช้วิธีการแบบนี้มาโดยตลอด ทุกครั้งทุกปีที่ผ่านมาก่อนที่จะถึงฤดูฝุ่น PM2.5 รัฐก็จะเกิดการกระตือรือร้นจัดอบรมเรียกท้องที่ เรียกท้องถิ่นมารับฟังนโยบาย แล้วสั่งการไป ตามนโยบาย Kick Off นั่น Kick Off นี่ ถ่ายภาพเสร็จแล้วท่านก็จากไป แต่ท่านประธานคะ ท้องที่ท้องถิ่นจริง ๆ ผู้ปฏิบัติหน้างานจริง ๆ เขาไม่ได้ต้องการแบบนี้ เขาต้องการให้ หน่วยงานของรัฐเข้าไปฟังเขาหน่อยได้ไหมคะ ไปฟังปัญหาของเขา ไปดูวิธีการจัดการของเขา โดยวิถีชีวิตของเขา แล้วรัฐพร้อมที่จะสนับสนุนเขาในรูปแบบวิถีชีวิตตามพื้นที่ของเขา อย่างแท้จริง ท่านประธานคะ เขาเกิดที่นั่น และเขาพร้อมที่จะตายที่นั่นแน่นอน ไม่ได้มา เพื่อรับตำแหน่งแล้วจากไปหลายพื้นที่ที่สามารถจัดการในเรื่องของป่า จัดการในเรื่องของ PM2.5 ได้ดี ยกตัวอย่างบ้านหัวทุ่ง อำเภอเชียงดาวที่นำป่าชุมชนมาทำเป็นแหล่ง การท่องเที่ยว เป็นป่าสมุนไพร เป็นป่าเศรษฐกิจ ป่าของเขาเป็นสิ่งที่หารายได้ เป็นอากาศ ของเขา หมู่บ้านนี้ไม่ยอมให้ใครต้องมาทำลายป่าของเขาเลยค่ะ และอีกพื้นที่หนึ่งที่จะ กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คืออำเภอเวียงแหง เป็นอำเภอที่ติดกับชายแดน เขามีวิธีการบริหารจัดการ แบบวิถีชีวิตชุมชนคนเวียงแหง โดยการทำงานกับเครือข่าย ทสม. กับการมีส่วนร่วมในการ จัดการป่าและหมอกควัน สามารถจัดการได้ดีเลยค่ะท่านประธาน แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พื้นที่เวียงแหง จัดการเกี่ยวกับอากาศของเวียงแหงได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพื้นที่เวียงแหงจะมี อากาศสะอาด เพราะพื้นที่เวียงแหงติดกับชายแดน ในสถานการณ์ที่เกิดควันพิษทุกวันนี้ ควันพิษหมอกควันไม่เลือกปฏิบัติว่าจะทำกับใคร คุณจะอยู่ในตำแหน่งไหน คุณจะเป็นลูกใคร ทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันหมดค่ะ
ดิฉันขออนุญาตยกตัวอย่างเคสนี้นะคะ น้องคนนี้วัย ๔ ขวบ บ้านแกอยู่ที่ เชียงดาว ทุก ๆ วันน้องต้องตื่นมาแล้วน้ำมูกไหลแบบทุกวัน จนพ่อแม่ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจาก อะไร จนวันหนึ่งผู้ปกครองนำน้องไปโรงพยาบาลไปตรวจ ผลตรวจออกมาคือน้องเป็นปอด อักเสบค่ะท่านประธาน แบบนี้ค่ะ วันนี้เราไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าจะเกิดกับตัวเราเมื่อไร จะเกิดกับ ครอบครัวของเราเมื่อไร ผู้ปกครองท่านนี้ก็เลย Post ลง Social Media ของเขานะคะ แล้วก็ บอกว่ามันกำลังจะทำลายลูกชายผม มันกำลังจะทำลายลูกของคุณ มันกำลังจะทำลายปอด ของเด็ก คนป่วย หญิงมีครรภ์ และคนชรา วิกฤติแบบนี้รัฐไม่เคยมีการประกาศว่าเป็น ภัยพิบัติ ไม่มีมาตรการแจ้งเตือน ไม่มีอะไรทั้งสิ้น จนทำให้ประชาชนของเราต้องเสี่ยงดวง เหมือนเสี่ยงดวงหวยรัฐบาลของเรานี้ เหมือนกับหมอกฤตไท ต้องขออนุญาตเอ่ยนามนะคะ ทุกคนต้องเจอแบบนี้ โดยไม่รู้ว่าจะเกิดกับเราเมื่อไร แต่วันนี้ดิฉันรู้สึกชื่นใจขึ้นมาอีกอันหนึ่ง ก็คือ พ.ร.บ. ฝุ่นพิษและก่อมลพิษข้ามแดนของพรรคก้าวไกลได้เข้ามาร่วมกับ พ.ร.บ. อีกหลายฉบับ และดิฉันก็คิดว่าทุก พ.ร.บ. ให้ความสำคัญเกี่ยวกับอากาศสะอาดและเป็น การแก้ไขปัญหา PM2.5 พ.ร.บ. ทุกตัวควรจะได้รับการสนับสนุนทุกฉบับ และดิฉันก็จะเห็น ว่า พ.ร.บ. ของพรรคก้าวไกลในเรื่องของฝุ่นพิษและการก่อมลพิษข้ามแดนเป็นประโยชน์ อย่างยิ่ง พ.ร.บ. นี้ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นเพื่อลมหายใจของทุกคน บนโลกนี้ค่ะ ดังคำบ่าเก่าได้กล่าวไว้ว่า จับใจ๋แฮง บ่จับใจก๋า จับไจ๋ครูบา บ่จับใจ๋ข้าน้อย การบริหารจัดการ ทั้งหมดอาจจะไม่ถูกใจใครทุกคน แต่ถ้าหากผู้มีอำนาจฟังเสียงพี่น้องประชาชนสักหน่อย การแก้ปัญหาที่มันตรงจุดมันจะทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภา ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๖ คนอำเภอ เชียงดาว เวียงแหง พร้าว ไชยปราการ วันนี้ดิฉันมีเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จะมาหารือ ท่านประธานนะคะ
เรื่องที่ ๑ เรื่องไฟ ส่องสว่าง ถนนสาย ๑๐๑๑ เส้นทางพร้าวไปจนถึงสันทราย ช่วงตำบลแม่หอพระไปจนถึง ตำบลโหล่งขอดไม่มีไฟส่องสว่างเลยค่ะ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้งหลายหน ล่าสุดเรา ต้องสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ถึง ๒ คน ที่ปฏิบัติการและใช้เส้นทางเส้นนี้ จึงอยากจะ เรียนท่านประธานฝากไปยังกระทรวงคมนาคม ช่วยสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งให้กับ แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ ๓ ในการจัดการในเรื่องของไฟส่องสว่างด้วยค่ะ เพื่อลดการเกิด อุบัติเหตุและการสูญเสียของพี่น้องประชาชนของเราด้วยนะคะ
เรื่องที่ ๒ ดิฉันได้รับหนังสือร้องเรียนจากนายกเทศบาลตำบลเมืองนะ นายกพงษ์ศักดิ์ และนายกเทศบาลตำบลทุ่งข้าวพวง นายกศรีวอน ต้องขออนุญาตเอ่ยนาม เรื่องถนนสาย ๑๑๗๘ ช่วงกิโลเมตรที่ ๑๙ จนถึงกิโลเมตรที่ ๒๗ ตั้งแต่บ้านห้วยเป้า ตำบลทุ่งข้าวพวงไปจนถึงตำบลเมืองนะ เส้นทางนี้แคบมาก ไม่มีไหล่ทางขรุขระมาก ปะแล้วปะอีก แล้วก็ปะต่อตลอดเส้นทางนี้ ไม่มีไฟส่องสว่างทำให้เกิดอุบัติเหตุตลอดปี ดิฉันจึงอยากจะเรียน ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงทำการสำรวจและทำการแก้ไขด้วยนะคะ
เรื่องที่ ๓ เรื่องนี้ไม่พูดไม่ได้เลยค่ะท่านประธาน คุณครูที่อยู่เข้าเวรคนเดียว ในวันหยุด โดนทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ดิฉันอยากจะหารือท่านประธานค่ะว่า เรื่องการอยู่เวร การเฝ้าโรงเรียนมันเป็นหน้าที่ของคุณครูหรือเปล่านะคะท่านประธาน แต่ล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมาต้องยินดีกับคุณครูทั่วประเทศด้วยนะคะ ที่รัฐมนตรีของเรา และรัฐบาลของเราได้ประกาศยกเลิกมติ ครม. ปี ๒๕๔๒ ที่ผ่านมา จึงทำให้คุณครูไม่ต้องอยู่เวร ไม่ต้องเฝ้าโรงเรียนแล้ว แต่ในมติการประชุมของวันที่ ๒๓ ที่ผ่านมาไม่ได้ระบุในการประชุมเลย หรือว่าจะเป็นเหมือนกับนโยบายการหาเสียงผ่านมาคะท่านประธาน จึงอยากจะเรียน ท่านประธานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าให้กรุณามีความจริงจังจริงใจ ในการแก้ไขปัญหา ในเรื่องของการศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาด้วยนะคะ เพื่อขวัญและกำลังใจด้วยค่ะ อย่าให้ชาวบ้านต้องมาพูดว่าใส่ถุงเท้าหลายสีจะอี้ จะไว้ใจ๋ได้กา ขอบคุณค่ะท่านประธาน
เรียนท่านประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๖ คนอำเภอเชียงดาว เวียงแหง พร้าว ไชยปราการ พรรคก้าวไกล วันนี้ดิฉันมีเรื่องความเดือดร้อน ของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมในเขตบ้านของดิฉันมาหารือท่านประธาน ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ถึงมีนาคมที่จะถึงนี้พี่น้องผู้ปลูกกระเทียมต้องทำการเก็บกระเทียม แต่ตอนนี้ ราคากระเทียมที่หน้าสวนเฉลี่ยต่ำกว่าราคาต้นทุนต่อ ๑ ไร่ พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม จะต้องขาดทุน ๒๐,๐๐๐-๓๐,๐๐๐ บาทต่อไร่ ขาดต้นทุนตั้งแต่อยู่ในมุ้งเลยค่ะ หรือภาษาเหนือ เรียกว่า ปุดตืน ค่ะ ท่านประธานคะ ดิฉันจะขอบอกว่าในฐานะลูกผู้ปลูกกระเทียมคนหนึ่ง ทุกครั้งที่มีราคาพืชผลทางการเกษตรหรือกระเทียมตกต่ำ หลาย ๆ คนก็จะบอกว่าแล้วทำไม ไม่ไปทำอย่างอื่น ทำไมไม่ปลูกอย่างอื่น บางครั้งถึงกับแนะนำให้ไปขายที่ดาวอังคาร ด้วยบริบท ความเป็นอยู่ สภาพอากาศของเราไม่สามารถเลือกได้ถึงขนาดนั้น มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา ของใครหลาย ๆ คน แต่มันเป็นเรื่องปาก เรื่องท้อง ความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกร มันจะ ดีกว่านี้ไหมถ้าหากรัฐบาลให้การช่วยเหลือ ดูแล ให้ความใส่ใจกับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูก กระเทียมด้วย การลงทุน ๑ ครั้งพี่น้องเกษตรกรจะต้องใช้ระยะเวลาถึง ๔ เดือนในการดูแล แล้วพี่น้องเกษตรกรไม่สามารถไปหารายได้อย่างอื่นเลย พอจะขายแล้วมาเจอราคาแบบนี้ อย่าหาว่ากำไรเลย ต้นทุนที่จะนำไปคืนแหล่งทุนยังไม่มีปัญญาเอาไปคืนได้เลย ทุกวันนี้ โฉนดของพี่น้องเกษตรกรไม่เคยได้อยู่บ้านเลยค่ะ อยู่แต่ธนาคาร วันนี้อยากจะเรียนหารือ ท่านประธานฝากไปยังนายกรัฐมนตรีช่วยแก้ไขในเรื่องราคาของกระเทียมด้วย ตามคำล้านนา ได้กล่าวไว้ว่า สิบปากว่าบ่เท่าตาหัน สิบตาหันบ่เท่ามือซวาม ดิฉันอยากจะเรียนท่าน นายกรัฐมนตรีไปสัมผัสความเป็นอยู่ ความยากลำบากของพี่น้องเกษตรกรด้วย เพื่อจะได้ นำมาแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตามนโยบายของท่านด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะท่านประธาน
เรียนประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๖ คนอำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ พรรคก้าวไกลค่ะ วันนี้ ดิฉันรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมากค่ะท่านประธาน ที่สภาแห่งนี้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการศึกษา พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ และดิฉันรอวันนี้มานานแล้วค่ะ รอที่จะมีการ ร่วมอภิปรายการศึกษาพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคเหนือนี้ เพราะเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชน ในเขตบ้านดิฉันฝากมาค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องอ้างถึงตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบาย การบริหารราชการแผ่นดินต่อสภา เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายนที่ผ่านมา โดยกำหนดให้เป็น นโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องพี่น้องประชาชน และนโยบายเขต พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษทั้ง ๔ ดิฉันในฐานะผู้แทนราษฎร เขต ๖ เคยตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องการเปิดด่านชายแดนเพื่อการค้าขายชายแดนในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายนที่ผ่านมา แต่ท่านยังไม่ได้มาตอบค่ะ ดิฉันจึงใช้โอกาส วันนี้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอภิปรายญัตตินี้ และดิฉันคิดว่าถ้าหากการเปิดด่าน ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว และอำเภอเวียงแหงได้จะเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นอย่าง มาก เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี ๒๕๔๑ จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศเป็นจุดผ่อนปรน ทางช่องทางหลักแต่ง ที่อำเภอเวียงแหง และด่านกิ่วผาวอกที่อำเภอเชียงดาว ตามความเห็นชอบของกระทรวงมหาดไทยให้เปิดตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงหกโมงเย็นของทุกวัน สร้างมูลค่ารวมทั้งหมด ๒๐๕ ล้านบาท อันนี้เป็นแค่ด่านชั่วคราวนะคะท่านประธาน ข้อมูลนี้ดิฉันได้จากด่านศุลกากรเชียงดาวค่ะ แต่หลังจากนั้น เมื่อปี ๒๕๕๑ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศยกเลิกระงับการผ่านเข้าออกจุดผ่อนปรนของอำเภอเชียงดาว แต่จุดผ่อนปรน หลักของอำเภอเวียงแหงยังไม่ถูกระงับการเข้าออก แต่ด้วยเหตุการณ์ที่มีการปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของฝ่ายไทยกับกองกำลังเมียนมา ทำให้กองทัพภาคที่ ๓ ได้สั่งระงับการเข้าออกตลอดจนการค้าทุกชนิดทั้ง ๒ ด่านถึงถูกปิดลงค่ะ ต่อมาเมื่อ วันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ กระทรวงพาณิชย์จัดให้มีการประชุมเพื่อต้องการ จะยกระดับด่านผ่อนปรน ด่านอำเภอเชียงดาวและด่านอำเภอเวียงแหง ที่เทศบาลตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน โดยในที่ประชุมมอบหมายให้จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมในการเปิดจุดผ่อนปรนทั้ง ๒ แห่ง ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่จัดให้หน่วยงาน ทั้งหมดมาเตรียมความพร้อมตามมติที่ประชุม วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๓ ผลการประชุม มีดังนี้ ก็คือ ๑. ฝ่ายความมั่นคงอยู่ระหว่างการรอยืนยันจากเมียนมาในการจัดประชุม RBC แขวงทางหลวงที่ ๓ ให้ข้อมูลว่า พร้อมที่จะดำเนินการปรับปรุงถนนทางหลวงหมายเลข ๑๓๒๒ ได้ทันทีค่ะ ๒. ด่านศุลกากรอำเภอเชียงดาวแจ้งว่ามีความพร้อมที่จะเปิดจุด และ ด่านศุลกากรจังหวัดเชียงใหม่มีอำนาจในการกำหนดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบ อำเภอเชียงดาวให้ข้อมูลกับความคืบหน้าในการจัดสรรพื้นที่ ที่จะทำจุดผ่อนปรน ที่ตำบลเมืองนะ โดยขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนทั้งหมด ๖๐๐ ไร่ ท่านประธานคะ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ทางหน่วยงานในพื้นที่และพี่น้องประชาชนมีความพร้อมมากค่ะ พร้อมที่จะมีการยกระดับเป็นด่านถาวรเพื่อเศรษฐกิจต่อเนื่องนะคะ ด่านในอำเภอตำบลเมือง ควรที่จะเป็นด่านถาวรได้แล้วค่ะ เพราะอะไรใช่ไหมคะ ก็เพราะว่าจังหวัดเชียงใหม่ของเราเป็นจังหวัดขนาดใหญ่เป็นอันดับ ต้น ๆ ของประเทศ และมีจำนวนประชากรเยอะเป็นอันดับ ๔ ของประเทศไทย และในที่สุด ยังไม่พอค่ะ เป็นเป้าหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งหมดกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ พิเศษ แต่ทำไมคะท่านประธาน ทำไมจังหวัดเชียงใหม่ไม่มีด่านถาวรสักด่านเลย อย่างเช่น เหมือนกับด่านจังหวัดเชียงรายและจังหวัดตาก แต่ดิฉันคิดว่าถ้าหาก ๒ ด่านนี้เปิดได้ จะเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว ระบบขนส่ง Logistics การขนส่งพืชผลทางการเกษตร การนำเข้าสินค้าที่จำเป็น และความเชื่อมโยง ระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นด้านคมนาคม ทางประเทศไทยเรามีถนนเชื่อมตั้งแต่ตัวเมือง เชียงใหม่ไปจนถึงชายแดน โดยใช้เป็นเส้นทางลาดยาง อย่างเช่น ชายแดนไปจนถึง บ้านโปงป่าแขม จำนวน ๒๐ กิโลเมตร ชายแดนไปจนถึงเมืองหาง ๔๐ กิโลเมตร ชายแดนไป จนถึงเมืองต่วน ๘๐ กิโลเมตร ชายแดนจนถึงเมืองสาด ๑๕๐ กิโลเมตร ชายแดนจนถึงเมือง ตองจี เมืองรัฐหลวงของรัฐฉาน ๖๐๐ กิโลเมตร ชายแดนจนถึงเมืองมัณฑะเลย์ ๑,๐๐๐ กิโลเมตรค่ะ ดิฉันเห็นด้วยกับญัตติทุกญัตติที่จะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพราะต้องการ จะพิจารณาการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของภาคเหนือ และดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องที่ ดิฉันอภิปรายไปเบื้องต้นทั้งหมดนี้นะคะ ทั้งด่านหลักแต่งที่อำเภอเวียงแหง และการเปิดด่าน ถาวรที่อำเภอเชียงดาว ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญจะนำไปพิจารณาเรื่องดังกล่าวและการ เปิดด่านทั้ง ๒ ด่านนี้ ไม่ใช่เพราะพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ของดิฉันเท่านั้น ซึ่งจะเป็น ประโยชน์ต่อการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจของภาคเหนือ และการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ของ ประเทศของเราค่ะ เหมือนกับคำที่พี่น้องประชาชนเขตบ้านของดิฉันฝากมาบอกว่า หม้อบ่ฮ้อน บ่าใจ้ต๋าไห มันเป๋นต๋าไฟ บ่าใจ้ต๋าหม้อ พี่น้องประชาชนจะขับเคลื่อนในเรื่อง ของเศรษฐกิจพิเศษ เรื่องการเปิดด่านได้สำเร็จ ต้องอาศัยความจริงจังจริงใจในการส่งเสริม เศรษฐกิจเหมือนอย่างท่านนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายไว้นะคะ ขอบคุณค่ะท่านประธาน
เรียนประธานสภา ที่เคารพ ดิฉัน อรพรรณ จันตาเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ เขต ๖ คนอำเภอเชียงดาว อำเภอเวียงแหง อำเภอพร้าว อำเภอไชยปราการ พรรคก้าวไกลค่ะ วันนี้ดิฉันขอมีส่วนร่วมในการอภิปรายญัตตินี้ด้วยนะคะ เนื่องจากพื้นที่บ้านของดิฉัน ๑ พื้นที่ มีป่าทั้ง ๔ ประเภท ประกอบไปด้วย เช่น ป่าสงวน เขตป่า เขตอุทยาน เขตรักษาพันธุ์ ซึ่งพื้นที่ป่า ๑ ป่านี้ เช่น การขออนุญาตนี้ที่ว่ายากแล้ว แต่พื้นที่ในหมู่บ้าน ๑ หมู่บ้าน มีตั้ง ๓-๔ ประเภท ท่านประธานคะ การขออนุญาตจะเป็นอย่างไรบ้างละคะ
การสร้างถนนหนทาง ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ประปา ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทั้งหมด ต้องขออนุญาต ทุกหน่วยงาน ซึ่งกฎ ระเบียบ ข้อกฎหมายมีความซับซ้อน แต่ละหน่วยงานไม่มีความเหมือนกัน ตีความแตกต่างกันอีกนะคะ เช่น การขออนุญาตใช้พื้นที่จากป่าสงวนตามมาตรา ๓๑/๑ มาตรา ๑๖ มาตรา ๒๐ อำนาจในการขออนุญาตเป็นของอธิบดี โดยความเห็นชอบของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ส่วนอุทยานแห่งชาติและ เขตรักษาพันธุ์เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี นี่ค่ะ นี่คือตารางการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งพระราชบัญญัติปี ๒๔๘๔ นะคะท่านประธาน แต่ปัจจุบันปี ๒๕๖๗ ผ่านมาแล้ว ๘๓ ปี เรายังใช้วิธีการรูปแบบเดิมนี้ ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยเราพัฒนาไปไหน ต่อไหนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบสารสนเทศ เทคโนโลยี เจ้าหน้าที่มีความสามารถมากมายเลยค่ะ ท่านประธาน แต่เรายังไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่หากหน่วยงานของรัฐยังไม่สามารถ ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ได้ ดิฉันแนะนำว่าสมัยหน้าให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลค่ะ จากตารางนี้ การขออนุญาตใช้ระยะเวลาทั้งหมดไม่เกิน ๙๐ วัน บอกว่าไม่เกิน ๙๐ วันค่ะ ท่านประธาน ๙๐ วันไม่มีจริงค่ะ เพราะอะไรใช่ไหมคะ ดิฉันเป็นผู้เคยขออนุญาตใช้พื้นที่ป่า เพื่อปักเสาพาดสายเข้าหมู่บ้านของดิฉันเอง เป็นหมู่บ้านแม่เตาะ บ้านแม่เอาะ บ้านแม่นาจร ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตัวอำเภอไม่ถึง ๑๐ กิโลเมตร แต่ระยะเวลาในการเดินทางของเอกสาร ใช้ระยะเวลาเดินทางตั้ง ๕ ปี ท่านประธานฟังไม่ผิดแน่นอนค่ะ ๕ ปีค่ะ ล่าสุดดิฉันได้รับความ อนุเคราะห์จากเพื่อนสมาชิกพรรคก้าวไกล สส. นิติพล ผิวเหมาะ ได้ทำการติดตาม ประสานงานจนได้รับการอนุมัติจากอธิบดีนะคะ แต่ ๕ ปีมันยาวนานเกินไป สำหรับความ เดือดร้อนของพี่น้องประชาชนนะคะ
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ดิฉันได้ลงพื้นที่ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว ไปพบ นายกธีรเดช นายกตำบลเมืองคอง ฝากดิฉันผ่านท่านประธานไปยังกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนะคะ เรื่องการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่า เอกสารการตีความ ในตัวหนังสือมีความยุ่งยากมากค่ะ กลับไป กลับมา เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็ให้เขียนอีกอย่างหนึ่ง ทำให้หน่วยงานของท้องถิ่นต้องตีเอกสารกลับไป กลับมา ก็เลยฝากมาถามค่ะ ตกลงต้องการ จะให้ท้องถิ่นทำหนังสือแบบไหนคะ กรุณาขอความชัดเจนให้กับท้องถิ่นหน่อยค่ะ เพื่อความ รวดเร็วในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน
ยังไม่พอค่ะ ดิฉันได้ไปบ้านห้วยงูนะคะ พื้นที่ที่นี่เกิดไฟป่า น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนเต็มถนนไปเลยค่ะ ท้องถิ่นกับพี่น้องประชาชนสามารถช่วยเหลือกันเอง แต่ถ้าหาก จะใช้วิธีการขออนุญาตใช้พื้นที่ตามกระบวนการที่เขียนไว้นะคะ ตอนนี้พี่น้องประชาชน คงเหลือแต่ชื่อแล้วค่ะ
ยังไม่พอค่ะ ดิฉันได้ไปผ่านที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งบ้านหนองแขม หย่อมบ้าน ป่าบงงาม หมู่บ้านนี้ถนนเส้นนี้เคยเป็นถนน ค.ส.ล. ท้องถิ่นได้อนุมัติในการทำถนนคอนกรีต เรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีรางระบายน้ำทั้ง ๒ ข้างทาง และถนนก็เกิน ๒๐ ปีแล้ว ก็เลย ขออนุญาตในการใช้ทำถนนใหม่ แต่พื้นที่ตรงนี้ไม่สามารถทำได้ค่ะ เนื่องจากทางอุทยานบอกว่าอยู่ในเขตอุทยาน ทำให้หน่วยงานท้องถิ่นตั้งงบประมาณไว้ ก็ปัดตกหมดเลยค่ะ ไม่สามารถทำได้ ปัญหามันไม่ใช่ปัญหาของเจ้าหน้าที่นะคะ แต่มัน เป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนค่ะ พี่น้องประชาชนต้องเดือดร้อนอยู่แบบนี้ ด้วยความที่ มันล่าช้าในการขออนุญาต การกำหนดตามบัญญัติของกรมป่าไม้และการดำเนินการ ขออนุญาตในเรื่องสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานดังกล่าว มันขัดกับหลักสิทธิและเสรีภาพของ ประชาชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี ๒๕๖๐ คือได้กำหนดให้เป็นหน้าที่ ของท้องถิ่น ซึ่งหน่วยงานของรัฐตามมาตรา ๕๖ ที่บัญญัติไว้ว่า รัฐต้องจัดหรือดำเนินการให้มี สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชนทั่วถึงตามหลักพัฒนายั่งยืน ท่านประธานคะ แต่การกำหนดแบบนี้ผู้มีอำนาจแค่คนเดียวในการอนุมัติ ทำให้โครงการ ทั้งหมดมันไปกองที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นโครงการใหญ่ โครงการเล็ก ก็จะไปกองอยู่ที่ รัฐส่วนกลางหมดเลย การขออนุญาตมันถึงช้า การพิจารณากลั่นกรองในแต่ละครั้ง ในแต่ละ พื้นที่ก็มีปัญหา แต่ละครั้งในการประชุมแต่ละเดือน ก็คือ ๑ ครั้งจะมีการประชุม ให้บรรจุ ในเรื่องของการอนุมัติได้แค่ ๒๐ เรื่อง ต่อ ๑ ครั้ง
แต่สิ่งที่ดิฉันอยากจะเรียนท่านประธานไปยังคณะกรรมการกลั่นกรองว่า ทุกเรื่องที่ท้องถิ่นส่งมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ มันคือเรื่องที่มันเร่งด่วนค่ะ ถ้าหาก ไม่เร่งด่วนจริง ๆ ไม่จำเป็นจริง ๆ ท้องถิ่นจะไม่เสียเวลาในการส่งมาให้พิจารณาเลยนะคะ การประชุมในแต่ละเดือนได้แค่ ๒๐ เรื่อง แต่พิจารณาใน ๑ ปี ไม่เกิน ๕๐๐ เรื่อง แต่เอกสาร ที่ค้างอยู่ที่กรมตั้ง ๖๐,๐๐๐ กว่าเรื่อง เราคิดแค่ตัวเลขกลม ๆ ค่ะ เอา ๖๐,๐๐๐ มาหาร ๕๐๐ ใช้ระยะเวลาในการขออนุมัติให้หมด ๖๐,๐๐๐ เรื่องนี้ ตั้ง ๑๒๐ ปีนะคะท่านประธาน อันนี้แค่โครงการที่ค้างพิจารณา แต่โครงการที่ยังจะขออีกต่อไปจะเป็นอย่างไรต่อ ดิฉันคิดว่า ถ้าหากเรายังใช้วิธีการพิจารณาในรูปแบบนี้ ไม่ใช่แค่การขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนนะคะ ทั้งอุทยาน ทั้งเขตป่าไม้ ทั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุกชนิดในรูปแบบ ขอให้มีการลดขั้นตอน ได้ไหมคะ ด้วยการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เป็นการแบ่งเบาภาระของคณะกรรมการ พิจารณากลั่นกรอง และขั้นตอนในการขออนุญาตควรจะมีความชัดเจน ใช้เทคโนโลยีมาทำ ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ทำให้หน่วยงานสามารถตรวจสอบว่าตอนนี้ขั้นตอนถึงไหนแล้ว อย่างไรแล้ว ไม่ต้องมาโทรถาม ถามแล้วถามอีกถามต่ออยู่นั่นค่ะ
ดิฉันเห็นด้วยกับญัตติทั้งหมดทั้ง ๔ ฉบับนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขการเข้าถึงสิทธิ ตามรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๖๐ และการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าเพื่อประโยชน์ขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ดั่งคำโบราณได้กล่าวไว้ว่า คนเฮาใหญ่แล้ว บ่ถ้าไผสอน จิ้งหีดแมงจอน ไผสอนมันเต้น ปัญหาทั้งหมดนี้มันไม่ได้เพิ่งเกิด เช่น การขออนุญาตเป็นปัญหาที่ยาวนาน มาแล้ว ถ้าหากรัฐทราบปัญหาแล้วนำมาแก้ไข ก็คงไม่มีใครนำปัญหามาพูดแล้วพูดอีก พูดต่อเหมือนทุกวันนี้นะคะ ขอบคุณค่ะท่านประธาน