ขออนุญาตท่านประธานนะคะ ดิฉัน พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ ท่าน สส. พัฒนา สัพโส ที่มีความห่วงใยในพุทธศาสนา โดยเฉพาะ บุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนพระปริยัติธรรม ดิฉันขออนุญาตกล่าวก่อนในเบื้องต้น ระหว่างที่ท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้ลงพื้นที่ทั้งที่ขอนแก่น แล้วก็ที่เชียงใหม่ ได้รับจดหมายร้องเรียนในเรื่องของความล่าช้าในการจ่ายเงินค่าตอบแทนของครูในโรงเรียน พระปริยัติธรรมท่านไม่ได้นิ่งนอนใจ ท่านรีบสั่งการให้ดิฉันได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วก็ให้ ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ได้ดูแลในเรื่องของ งบประมาณว่ามันเกิดอะไรขึ้น ให้สอบถาม ดิฉันได้สอบถามไปสู่สำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติ ก็ได้รับการตอบว่ามันล่าช้ามา ๑๕ เดือนแล้ว ดิฉันได้ทำงานละเอียดดูว่าหลักฐาน ต่าง ๆ นั้น เป็นความล่าช้าและเป็นความถูกต้องจริงหรือไม่ ซึ่งสำนักพระพุทธศาสนา แห่งชาติ ได้เสนอมาแล้วเราก็ได้ขออนุมัติงบ ของงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๖ เป็นงบกลาง เพื่อสำรองงบฉุกเฉินนั้นเป็นจำนวนเงิน ๓๔๖,๗๒๖,๔๐๐ บาท ซึ่งเป็นจำนวนอัตราทั้งหมด ๓,๓๒๐ อัตรา ซึ่งเราได้สำรวจเรียบร้อยแล้วว่าเป็นตัวตนจริง เป็นครูจริง เพราะฉะนั้น อยากจะเรียนให้ทราบว่าเราทำงานด้วยความรวดเร็วนะคะ แล้วก็เล็งเห็นความสำคัญของ พุทธศาสนา โดยท่านนายกก็ได้เร่งรัดแล้วก็อนุมัติงบประมาณให้โดย ครม. ในวันที่ ๒๖ เรียบร้อยแล้วนะคะ
ขออนุญาตตอบคำถามในคำถามที่ ๑ ของท่าน สส. ก็คือท่านถามว่าท่านจะ จัดสรรงบประมาณปี ๒๕๖๗ ให้พุทธศาสนานี่ โรงเรียนพระปริยัติธรรมนี่ มากกว่าเดิมหรือไม่ ดิฉันขออนุญาตตอบว่าตามระเบียบของสำนักงบประมาณการจัดสรรงบประมาณตาม แนวทางจะจัดสรรงบประมาณตามแนวทางเดียวกับการศึกษาหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการ ราชการ คณะบุคลากรทางการศึกษาคือ ก.ค.ศ. ในทางเดียวกันการพิจารณาการจ่ายเงิน ค่าตอบแทนของการศึกษาพระปริยัติธรรมก็จะเป็นในแนวทางเดียวกันนะคะ ดิฉันได้สำรวจ และทราบว่าปีต่อไปในปี ๒๕๖๗ นั้นจะได้งบมากกว่าเดิม ๕๘๔ ล้านบาท ในปี ๒๕๖๗ ซึ่งจะรายงานให้กระทรวงการคลังได้เห็นชอบ ก็ขออนุญาตตอบข้อ ๑ ของท่าน สส. พัฒนา สัพโส นะคะ
กราบเรียน ท่านประธานผ่านไปยังท่าน สส. นะคะ
คำถามที่ ๒ ที่ท่านบอกว่าเราอนุมัติงบประมาณเพียง ๑๖ ตำแหน่ง ดิฉันอยากจะขอเรียนว่าเห็นชอบไป ๑๖ ตำแหน่ง ที่ขาดอยู่ ๑๙ ตำแหน่งนี้จริง ๆ แล้ว เราไม่ได้ขัดข้องนะคะ แต่เรามีหลักเกณฑ์ของการอนุมัติตำแหน่งนี้ หลักเกณฑ์ที่ ๑ ก็คือ ต้องมีภารกิจในลักษณะงานสอน หรือสนับสนุนการศึกษาของพระปริยัติธรรม หลักเกณฑ์ที่ ๒ คือมีหน้าที่ มีบทบาทอันเกี่ยวเนื่องจากการศึกษาพระปริยัติธรรม หลักเกณฑ์ที่ ๓ มีความ เชื่อมโยงกับกระบวนการจัดการเรียนการสอน การนิเทศ การบริหาร การจัดการการศึกษา ในสถานศึกษาพระปริยัติธรรม ถ้า ๑๙ ตำแหน่งที่ยังเหลืออยู่นี้ไม่ได้ขัดข้องหรือไปตาม หลักเกณฑ์ที่กำหนดใน ๓ ข้อนี้ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็สามารถที่จะเสนอ ไปให้กระทรวงการคลัง เพื่อให้ได้รับการตอบแทนต่อไป ขออนุญาตกราบเรียนท่าน สส. ค่ะ